โผล่อีก! ริ้วคลื่นสีดำคล้ายพญานาคกลางบึงหนองหาร

สกลนคร - คณะตรวจสอบพื้นที่เพื่อก่อสร้างพุทธมณฑลเกาะดอนสวรรค์ พร้อมนักข่าว และคณะแสวงบุญกว่า 20 ชีวิต ฮือฮาขากลับจากเกาะดอนสวรรค์ ขณะหยุดเรือกรอกน้ำหนองหารไปสักการะพบริ้วคลื่นสีดำคล้ายพญานาคความยาวกว่า 50 เมตร เผยเป็นจุดเดิมที่ คำรณ หว่างหวังศรีกับทีมงานเคยพบ

วันนี้ (4 เม.ย.) เวลา 10.00 น. คณะตรวจสอบเพื่อก่อสร้างพุทธมณฑลเกาะดอนสวรรค์ถวายเป็นพุทธบูชา ครบ 2,600 ปีพระพุทธเจ้าตรัสรู้ ซึ่งจะก่อสร้างอยู่บนเกาะดอนสวรรค์ใจกลางบึงหนองหาร จ.สกลนคร คณะดังกล่าวนำโดย นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนคร พร้อมด้วยพระเจ้าคณะอำเภอเมืองสกลนคร สื่อมวลชน และคณะแสวงบุญ รวมแล้วกว่า 20 ชีวิต ออกเดินทางจากฝั่งบริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ด้วยเรือขนส่งของนายสันติ ไชยยศ รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นผู้ที่ประสบกับเหตุการณ์ที่เชื่อว่าเป็นพญานาคกับนายคำรณ หว่างหวังศรี พิธีกรไทยทีวีสีช่อง 3

วันนี้ระหว่างเดินทางไปเกาะดอนสวรรค์ คณะแสวงบุญก็ได้กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอยู่ในหนองหาร ด้วยการโปรยช่อดอกบัว รวมถึงพวงมาลัยลงในหนองหาร

ทั้งนี้ เกาะดอนสวรรค์เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในบึงหนองหาร มีพระอุโบสถรวมถึงที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์ตลอดจนพุทธศาสนิกชน ปัจจุบันมีพระจำวัดอยู่ 7 รูป เกาะแห่งนี้อยู่ไกลจากฝั่งด้านสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ สกลนคร ประมาณ 5 กม. เมื่อไปถึงคณะก็ได้กราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระพุทธรูปภายในเกาะ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนครก็ได้ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการพัฒนาเกาะดอนสวรรค์แห่งนี้ตามปกติ

ต่อมาคณะได้ลงเรือและได้แล่นเรือกลับตามเส้นทางเดินเรือปกติ ก็พบว่ามีสาหร่าย จอก และแหนติดใบพัดเรือเป็นระยะๆ ทำให้การเดินทางตะกุกตะกักบ้าง เมื่อแล่นเรือออกจากเกาะดอนสวรรค์สักพัก กัปตันเรือก็ผ่อนเครื่องและพูดกับคณะแสวงบุญว่าบริเวณนี้เป็นจุดที่คุณคำรณ หว่างหวังศรี กับคุณสันติ ชัยยศ เคยเจอกับท่าน

เมื่อได้ยินดังนั้น คณะแสวงบุญก็ได้ขอให้กัปตันเรือช่วยนำขวดน้ำไปกรอกน้ำบริเวณหนองหารนำไปสักการบูชาเพื่อความเป็นสิริมงคล กัปตันเรือจึงจอดเรือนิ่งไว้บริเวณดังกล่าว ซึ่งบริเวณนี้เรียกได้ว่าอยู่ใจกลางหนองหารก็ว่าได้

ขณะที่กัปตันเรือกำลังกรอกน้ำขวดที่สอง มีคุณป้าคนหนึ่งตะโกนขึ้นมาว่า “ถามหาท่าน ท่านออกมาให้ดูแล้ว” ทุกคนภายในเรือต่างหันไปดูปรากฏการณ์ดังกล่าวอย่างชวนสงสัย บรรยากาศเงียบกริบ

แต่ที่ทุกคนทำคล้ายๆ กัน นั่นก็คือ การยกมือขึ้นไหว้สิ่งที่ปรากฏอยู่ห่างจากเรือประมาณ 100 เมตรกันทุกคน ทางด้านกัปตันเรือกล่าวว่า อาจเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือไม่ก็คลื่นก็เป็นได้ แต่แปลกที่หลังจากนั้นก็ได้รีบเร่งเครื่องแล่นเรือกลับอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ สื่อมวลชนได้จับภาพปรากฏการณ์ดังกล่าวตลอดระยะเวลาตั้งแต่เริ่มต้น จนเรือแล่นอยู่ห่างจากสิ่งดังกล่าวมากจนมองไม่เห็นเพราะก็สงสัยว่าเป็นอะไรกันแน่ โดยตั้งสมมติฐานว่าอาจเป็นคลื่นจากเรือก็เป็นได้ แต่เมื่อดูจากริ้วน้ำสีดำความยาวตั้งแต่หัวจดหางซึ่งยาวกว่า 50 เมตร ผุดสลับคล้ายสันหลังของสิ่งมีชีวิต อีกทั้งเมื่อเรือแล่นห่างออกไปจนลับสายตา จากการซูมดูภาพปรากฏการณ์ด้วยกล้องถ่ายวิดีโอแบบโปร พบว่าริ้วน้ำสีดำยังอยู่บริเวณเดิมตลอดเวลา แม้เรือจะแล่นออกห่างไปกว่ากิโลเมตรแล้ว ดังนั้น ข้อสมมติฐานที่ว่าอาจเป็นคลื่นน้ำจากเรือจึงเป็นไปได้ยาก

หลังเรือได้กลับถึงฝั่ง นายฉัตรชัย ชูเชื้อ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสกลนคร ได้เปิดเผยถึงนาทีที่พบเห็นสิ่งอัศจรรย์ว่า รู้สึกตื่นเต้นมาก เกลียวคลื่นพุ่งออกมาจากน้ำเป็นทางยาว เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นประสบการณ์ตรงที่พบเจอกับตัว ใครไม่เจอกับตัวก็อาจจะไม่รู้

“ตัวผมเองเชื่อในสิ่งนี้ และเคารพบูชา และถือเป็นฤกษ์ที่ดีก่อนเริ่มโครงการสร้างพุทธมณฑลเกาะดอนสวรรค์ ที่ท่านได้แสดงตัวให้พวกเราได้เห็น” นายฉัตรชัยกล่าว