สกลนคร -เพลิงไหม้อาคารเรียนไม้เก่ากว่า 30 ปี วอดทั้งหลังสูญกว่า 2 ล้าน ขณะหอประชุมติดกัน ครูกำลังสอนพิเศษ นักเรียนนับร้อยวิ่งหนีตายวุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา 13.30 น.วันนี้ (7 มี.ค.) พ.ต.ท.คชศรี เที่ยงแท้ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.ขมิ้น ได้รับแจ้งเหตุเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนภายในโรงเรียนชุมชนดงมะไฟเจริญศิลป์ ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร หลังรับแจ้งจึงได้แจ้งพันตำรวจเอก อรรณพ พุ่งโตมร ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรขมิ้น พร้อมรายงาน พลตำรวจตรี พลศักดิ์ บรรจงศิริ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสกลนคร ผู้บังคับบัญชา ประสานเจ้าหน้าดับเพลิงเทศบาลตำบลดงมะไฟ
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลเมืองสกลนคร นำรถดับเพลิงกว่า 10 คัน กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 10 นาย ประสานรถโมบายตัดกระแสไฟฟ้าในจุดเกิดเหตุ ทั้งหมดร่วมกันเข้าตรวจสอบสถานที่และระดมน้ำดับไฟที่เกิดเหตุ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุพบต้นเพลิงกำลังลุกไหม้ เป็นอาคารเรียนที่ก่อสร้างด้วยไม้เก่าแก่ อายุ ประมาณ 30 ปี ใช้เป็นอาคารเรียนเด็กนักเรียนชั้นอนุบาล ระดับชั้นปีที่ 1-3 มีทั้งหมด 3 ห้องเรียน
แยกเป็นห้องสอนวิชานาฏศิลป์ ที่มีเครื่องแต่งกาย เครื่องดนตรี เสื้อผ้าใช้ในการแสดง ของเด็กนักเรียน ส่วนห้องเด็กอนุบาลก็ได้เก็บอุปกรณ์การเรียน ผ้าห่ม และที่นอน โดยอาคารเป็นไม้เก่าทั้งตัวอาคารเรียน ซึ่งเป็นเชื่อเพลิงอย่างดี เพลิงได้ลุกไหม้อย่างรวดเร็วขยายวงกว้างเต็มทั่วอาคาร
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงต้องใช้เวลาระดมฉีดน้ำกว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่ก็ต้องฉีดน้ำหล่อเลี้ยงไว้ตลอด เนื่องจากเกรงว่าเพลิงจะปะทุขึ้นมาอีก เนื่องจากเชื้อเพลิงเป็นไม้เก่า สามารถเก็บความร้อนได้ดี และเกรงว่า เพลิงจะลุกลามไปไหม้อาคารเรียนของเด็กประถมที่อยู่ติดกันห่างไปเพียง 2 เมตร และอาคารหอประชุมใหญ่ที่อยู่ด้านหน้า ห่างออกมาเพียง 10 เมตร โดยขณะเกิดเหตุมีกลุ่มประชาชนในพื้นที่ และเด็กนักเรียนของโรงเรียนเข้ามายืนมองเจ้าหน้าเร่งดับไฟด้วยความเสียใจ
จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์คนแรก คือ นางอัมพร สุภร อายุ 40 ปี เป็นชาวบ้านดงมะไฟ ต.ขมิ้น อ.เมือง จ.สกลนคร ผู้ปกครองนักเรียนที่เรียนประจำอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ ทราบว่า ช่วงที่เกิดเหตุ ตนได้นำกับข้าวมาส่งลูกสาวที่กำลังเรียนพิเศษอยู่ที่อาคารหอประชุมโรงเรียน
ขณะที่ตนกำลังเดินเข้ามาในหอประชุม พบว่า มีกลุ่มควันไฟพวยพุ่งออกมาจากบริเวณใต้หลังคาของตัวอาคาร จากนั้นไฟได้ลุกลามเผาไหม้ตัวอาคารอย่างรวดเร็ว จนตนทำอะไรไม่ได้ จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ประสานงานไปยังเจ้าที่ดับเพลิงในท้องที่ กว่าเจ้าหน้าที่จะมาถึงไฟได้ลุกไหม้อาคารไปเกือบทั้งหลังแล้ว
เบื้องต้นสันนิษฐานว่า น่าจะมาจากไฟฟ้าลัดวงจร คิดเป็นมูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงจะมีการสืบสวนสอบสวนต่อไป
