อุตรดิตถ์ - ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์เผย วันนี้ 4 อำเภอจาก 9 อำเภอของเมืองลับแลเจอภัยหนักสุด ทั้ง “ท่าปลา น้ำปาด ฟากท่า บ้านโคก และทองแสนขัน” คาดปีนี้วิกฤตแล้งเริ่มคลายมิถุนาฯ
นายโยธินศร์ สมุทรคีรีจ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินด้านภัยแล้งแล้วทุกอำเภอ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 61 ตำบล 419 หมู่บ้าน ของจังหวัดอุตรดิตถ์ ตนเป็นห่วงสถานการณ์อาจหนักในพื้นที่อำเภอท่าปลา น้ำปาด ฟากท่า บ้านโคก และทองแสนขัน ขอให้เกษตรกรที่ปลูกพืชนอกเขตชลประทานติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ก็ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจัดตั้งศูนย์ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งขึ้นเป็นการด่วน ทั้งศูนย์ระดับอำเภอและตำบลให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้ง 9 อำเภอ เพื่อเป็นการติดตามสถานการณ์ปัญหาภัยแล้งอย่างใกล้ชิด พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนที่ได้รับผลกระทบหากต้องการความช่วยเหลือสามารถแจ้งขอรับการช่วยเหลือได้ที่ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน หรือที่องค์การบริหารส่วนตำบลและอำเภอได้ตลอดเวลา
สำหรับเกษตรกรที่ปลูกพืชที่ต้องการใช้น้ำเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการปลูกข้าวนาปรังนั้นได้มีการรณรงค์ให้หันมาปรับเปลี่ยนเป็นพืชที่ต้องการใช้น้ำปริมาณน้อยแทน
และในขณะนี้ได้ใช้งบฉุกเฉินของจังหวัด จำนวน 20 ล้านบาท แก้ไขปัญหาในเบื้องต้นในการขุดลอกคลองและสร้างฝายกั้นน้ำโดยเฉพาะพื้นที่ตอนเหนือของจังหวัดเพื่อเป็นการกักเก็บน้ำแล้ว ในเบื้องต้นคาดว่าสถานการณ์ภัยแล้งน่าจะรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา
ผู้ว่าฯ อุตรดิตถ์บอกอีกว่า คาดว่าสถานการณ์ภัยแล้งจะเริ่มคลี่คลายได้ในช่วงเดือนมิถุนายน 55
ด้านเขื่อนสิริกิติ์ ระดับน้ำเหนือเขื่อนอยู่ที่ 145 เมตรเหนือระดับน้ำทะเลปานกลาง อยู่ที่ความจุ 5,656 ล้านลูกบาศก์เมตร น้ำพร้อมใช้งานได้ 2,806 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่น้ำไหลเข้าอ่างเก็บวันละ 4 ล้านลูกบาศก์เมตร และปล่อยลงสู่ท้ายเขื่อนวันละ 20 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งแผนการพร่องน้ำนั้น ณ ปัจจุบันได้ลดระดับลงแล้วจากเดิมที่ต้องปล่อยถึงวันละ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร