“เพลี้ย-หนอน” ระบาดไร่แคนตาลูป สูญยับ-เกษตรกรเจ๊งวอนรัฐช่วย

บุรีรัมย์ - เพลี้ยไฟไรแดง และหนอนไชใบ ระบาดในไร่แตงแคนตาลูปบุรีรัมย์ผลผลิตเสียหายจำนวนมาก ฉีดพ่นยากำจัดไม่ได้ผล วอนรัฐช่วยเหลือหาวิธีกำจัดเพลี้ยและหนอนก่อนเจ๊งเลิกเลี้ยงทั้งหมด ขณะเกษตรกรหลายรายต้องเลิกปลูกหลังประสบศัตรูพืชระบาด-ภัยแล้งซ้ำซากหลายปี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพลี้ยไฟไรแดง และหนอนไชใบ กำลังระบาดหนักในไร่แตงแคนตาลูปของเกษตรกรบ้านหนองสรวง ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ ทำให้ลำต้นแคระแกร็น เจริญเติบโตช้า และผลผลิตได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก สร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกแตงแคนตาลูปอย่างหนัก ถึงแม้เกษตรกรจะควักเงินในกระเป๋าซื้อยาหรือสารเคมีฉีดพ่นเพื่อกำจัดเพลี้ยไฟไรแดง แต่ก็ไม่เป็นผล อีกทั้งยังทำให้ต้นทุนสูง และประสบปัญหาขาดทุนเนื่องจากไม่สามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้ จึงวิงวอนให้หน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องได้หาวิธีหรือแนวทางกำจัดเพลี้ยไฟไรแดง และหนอนไชใบที่กำลังระบาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกร

ทั้งนี้ จากผลกระทบดังกล่าวทำให้เกษตรกรหลายรายต้องชะลอและเลิกปลูก หันไปประกอบอาชีพอื่นแทน เนื่องจากประสบปัญหาภัยแล้งและศัตรูพืชระบาดซ้ำซากต่อเนื่องมานานกว่า 4 ปี จากเมื่อปี 2539 มีเกษตรกรปลูกแตงแคนตาลูปมากกว่า 20 ราย พื้นที่ปลูกกว่า 100 ไร่ ปัจจุบันมีเกษตรกรปลูกเพียง 6 ราย เนื้อที่ปลูกไม่ถึง 20 ไร่เท่านั้น

ด้าน นางนารี จันทร์สิน อายุ 55 ปี เกษตรกรผู้ปลูกแตงแคนตาลูป บ.หนองสรวง ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ กล่าวว่า ได้ปลูกแคนตาลูปจำนวน 3 ไร่ ลงทุนไปทั้งสิ้นกว่า 60,000 บาท ซึ่งหากไม่ประสบปัญหาเพลี้ยไฟและหนอนระบาด ก็จะสามารถเก็บผลผลิตส่งขายได้ไม่น้อยกว่า 200,000-250,000 บาท แต่หลังจากได้เกิดเพลี้ยและหนอนระบาดยังไม่รู้ว่าจะสามารถเก็บผลผลิตขายได้ทุนคืนหรือไม่

จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องหาวิธีกำจัดเพลี้ยไฟไรแดงและหนอนไชใบที่กำลังระบาด เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกแตงแคนตาลูปที่กำลังประสบปัญหาเดือดร้อนอยู่ในขณะนี้ด้วย ก่อนที่เกษตรกรจะต้องเลิกทำอาชีพปลูกแคนตาลูปทั้งหมด

ด้าน นายสุบรรณ เรืองคำไฮ ประธานกลุ่มผู้ปลูกแตงแคนตาลูป ต.แสลงพัน อ.ลำปลายมาศ กล่าวว่า ชาวบ้านบ้านหนองสรวง ได้ทำอาชีพปลูกแตงแคนตาลูปขายมาตั้งแต่ปี 2539 มีสมาชิกมากกว่า 20 ราย พื้นที่ปลูกมากกว่า 100 ไร่ และที่ผ่านมาเคยสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรปีละหลายสิบล้านบาท แต่เมื่อปี 2550 ได้เริ่มประสบปัญหาศัตรูพืชระบาด โดยช่วงหน้าแล้งก็จะเกิดโรคเพลี้ยไฟ หนอนไชใบระบาด

ส่วนหน้าหนาวก็จะเป็นโรคราน้ำค้าง ทำให้เกษตรกรได้รับความเดือดร้อนมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะปีที่ผ่านมาเกษตรกรประสบปัญหาเพลี้ยระบาดหนัก จนบางรายต้องถอนต้นทิ้งไม่ได้ผลผลิตเลย ทำให้เกษตรกรต้องประสบปัญหาขาดทุนและชะลอการปลูกแคนตาลูป

“จึงอยากร้องขอให้รัฐบาล และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เร่งเข้ามาสำรวจและหาแนวทางกำจัดเพลี้ยไฟ ไรแดงให้หมดไปเพื่อลดปัญหาความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร และจะได้สามารถกลับมาปลูกแคนตาลูปขายมีรายได้เหมือนที่ผ่านมา” นายสุบรรณกล่าว