ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ชาวเลบ้านหัวเลน ต.หัวเขา อ.สิงหนคร ทำปลาแห้งบนภูเขา ปลอดภัยไร้สารพิษและแมลงวัน ส่งจำหน่ายร้านของฝากตามแหล่งท่องเที่ยว มีเท่าไหร่ไม่พอขาย สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีชาวเลครอบครัวหนึ่งในพื้นที่บ้านหัวเลน หมู่ 6 บ้านหัวเลน ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา มีวิธีการทำปลาแห้งที่แตกต่างจากการทำปลาแห้งของชาวเลทั่วๆ ไปเนื่องจากเป็นการทำปลาแห้งบนภูเขาแทนที่จะทำริมทะเล
โดยชาวเลรายนี้คือ นางติหวา เภ่าเวช อายุ 72 ปี อยู่บ้านเลขที่ 89/1 หมู่ 6 บ้านหัวเลน ต.หัวเขา อ.สิงหนคร จ.สงขลา ซึ่งจะมีวิธีการทำปลาแห้งที่แตกต่างจากชาวเลทั่วไป ซึ่งปกติจะนำปลาสดมาชำแหละและล้างนำทำความสะอาดแล้วนำไปตากแดดบนแผงบริเวณข้างบ้าน หรือที่โล่งในชุมชนและริมทะเล แต่สำหรับคุณยายติหวาจะใช้วิธีทำปลาแห้งบนภูเขา
โดยนำปลาขึ้นไปตากแห้งบนภูเขาเพื่อรับแสงแดดได้ตลอดทั้งวันและแดดแรงกว่าปกติเนื่องจากอยู่บนที่สูงสามารถ ร่นระยะเวลาในการตากปลาให้สั้นลงจากปกติที่ต้องตากปลาอย่างน้อย 2 วัน แต่การตากปลาบนภูเขาใช้เวลาเพียงวันครึ่งก็สามารถส่งขายได้แล้ว
คุณยายติหวาบอกว่า วิธีการทำปลาแห้งบนภูเขานอกจากจะร่นเวลาได้แล้ว ยังลดปัญหาในเรื่องของแมลงวันหัวเขียวตอมที่แทบจะไม่มีเมื่อ เทียบกับการทำบริเวณบ้านหรือที่โล่งในชุมชนซึ่งมักจะมีแมลงวันจำนวนมากมาตอมปลาที่ตากไว้ ทำให้ปลาเป็นหนอนและไม่สะอาด และปลาแห้งของยายก็เป็นปลาปลอดสารพิษทุกขั้นตอนไม่มีการใช้สารเคมีและอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เป็นตามธรรมชาติไร้มลพิษ
สำหรับปลาที่คุณยายติหวา นำมาทำเป็นปลาแห้งนั้นส่วนใหญ่เป็นปลาหลังเขียวที่ซื้อมาจากชาวประมงในราคากิโลกรัมละ 10-12 บาท และเมื่อนำมาทำเป็นปลาแห้งจะขายได้กิโลกรัมละ120 บาท แต่ละวันสามารถทำปลาแห้งได้ 70-100 กิโลกรัม โดยส่งขายตามร้านจำหน่ายของฝากในพื้นที่เกาะยอ แหล่งท่องเที่ยวใน จ.สงขลา ที่รับซื้อไม่อั้นและมีเท่าไหร่ไม่พอขาย และการทำปลาแห้งบนภูเขาสามารถทำได้ตลอดทั้งปียกเว้นช่วงฤดูฝนและฤดูมรสุมที่ชาวประมงไม่สามารถออกหาปลาได้
คุณยายติหวาบอกว่า ครอบครัวของตนนั้นทำปลาแห้งขายกันทั้งครอบครัว ซึ่งมีรายได้พออยู่พอกิน และการปลาแห้งบนภูเขามีเพียงครอบครัวของตนเองครอบครัวเดียวที่ทำอยู่ นอกจากจะได้ปลาแห้งที่มีคุณภาพภายในสภาพแวดล้อมที่ดีแล้ว คุณยายติหวายังบอกว่าสุขภาพของตนยังดีด้วยเพราะแม้จะมีอายุถึง 72 ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ยังสามารถเดินขึ้นลงภูเขาวันละรอบสองรอบได้อย่างสบาย