ศรีสะเกษ - “ผอ.รพ.ภูสิงห์” กลับลำ เผยผลการตรวจสอบยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนแล้วเสร็จ ยืนยันยอดหายไปจริง 250,000 เม็ด ไม่ใช่แค่ 3 หมื่นเม็ด อ้างคาดยาหายในช่วงเกิดสงครามตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา ขณะตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการทางคดี รอคำสั่งจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ
วันนี้ (24 มี.ค.55) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ลงมาตรวจสอบยาแก้ไข้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีน ซึ่งใช้เป็นสารตั้งต้นผลิตยาเสพติดได้หายไปจากโรงพยาบาลภูสิงห์ 250,000 เม็ด ต่อมาสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ศรีสะเกษ ได้สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยมี นพ.วันชัย เหล่าเสถียรกิจ ผู้ช่วยสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานการตรวจสอบและได้มาดำเนินการตรวจสอบที่ รพ.ภูสิงห์ ว่ายาที่หายไปมีจำนวนเท่าใดอย่างไร ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นของโรงพยาบาลภูสิงห์เองพบว่ายาหายไปแค่จำนวน 30,000 เม็ดนั้น
ล่าสุดวันนี้ เมื่อเวลา 13.30 น.นพ.กิตติภูมิ จุฑาสมิท ผู้อำนวยการโรงพยาบาลภูสิงห์ อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ เปิดเผยอีกครั้งว่า ขณะนี้การตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงระดับจังหวัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมการฯ ได้ทำการตรวจสอบหลักฐานเอกสารอย่างละเอียดแล้วปรากฏว่า ตัวเลขจำนวนยาแก้ไข้หวัดสูตรซูโดอีเฟดรีนที่หายยังคงยืนยันอยู่ที่จำนวน 250,000 เม็ด ตรงตามที่เจ้าหน้าที่ของกรมสอบสวนคดีพิเศษลงมาตรวจสอบ ซึ่งถือว่าการตรวจสอบของทางจังหวัดศรีสะเกษ เสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการสอบสวนด้านคดีความเท่านั้น
สำหรับในส่วนของยาที่หายไปนั้น ตนคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงปี 2554 ที่มีการสู้รบกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ทำให้ต้องมีการจ่ายยาออกไปจำนวนมาก โดยช่วงนั้นยาเหล่านี้ยังไม่ได้เป็นยาควบคุม
ส่วนกรณีการดำเนินการสอบสวนผู้รับผิดชอบนั้น จะต้องตั้งคณะกรรมการดำเนินการสอบสวนต่อไปว่า ความผิดที่เกิดขึ้นที่ทำให้ยาหายไปนั้น เกิดจากสาเหตุใด ซึ่งเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบได้รับทราบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วและได้รายงานชี้แจงรายละเอียดต่างๆ ให้คณะกรรมการตรวจสอบได้รับทราบแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า ขณะที่พนักงานสอบสวน สภ.ภูสิงห์ ซึ่งได้รับการแจ้งความไว้เป็นหลักฐานกรณียาแก้หวัดซูโดอีเฟดรีนของ โรงพยาบาลภูสิงห์ หายไป ก็ยังไม่ได้มีการดำเนินการเพิ่มเติมแต่อย่างใด เนื่องจากว่าคดีนี้ต้องรอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษประสานงานลงมาเสียก่อน จึงจะมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนต่อไป