อุดรธานี-สสจ.อุดรฯ เผยสั่งเก็บยาแก้ไอ “ซูโดเอฟรีดีน” เข้าที่ปลอดภัยไม่นำกลับมาใช่อีก ขณะที่ตำรวจส่งชุดสืบสวนสอบสวนตามล่าตัวเภสัชกรโรงพยาบาล
นายสัญชัย ปิยพงษ์กุล นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้กรณีปัญหายาแก้ไอซูโดเอฟดีนหายจากโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีอยู่ในการดูแลของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาเพื่อทำการสอบข้อเท็จจริง คาดว่าทุกอย่างจะสามารถเสร็จเรียบร้อยภายในสิ้นเดือนนี้
ในส่วนของจำนวนยาที่หายไปจากคลังยาของ รพ.ศูนย์มากน้อยเพียงใดนั้น คณะกรรมการกำลังตรวจจำนวนอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง จึงจะสามารถบอกจำนวนที่ชัดเจนได้ เพราะว่ามีเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนมาก
ส่วนยาแก้ไอซูโดเอฟรีดีนที่ยังค้างหรือมี อยู่ตามโรงพยาบาลทุกแห่งทั่วจังหวัด ก็ได้ให้เก็บรวบรวมจากโรงพยาบาลทุกแห่งรวมทั้ง รพ.สต.ด้วย ให้นำเอามาเก็บรักษาเอาไว้ที่ รพ.ชุมชน และจัดให้มีคนดูแลรักษาอย่างดี เพื่อไม่ให้สามารถเอาไปใช้ได้อีกแล้ว ในส่วนของร้านขายาทั่วๆไป ก็ไม่ได้มีการสั่งยาดังกล่าวมาขาย
นอกจากนี้ ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่เภสัชประจำ รพ.ชุมชน ออกทำการตรวจร้านขายยาทุกร้าน ส่วนในเขตเทศบาลนครอุดรธานี หน่วยงานของสาธารณสุขจังหวัด ออกไปทำการตรวจสอบ อย่างไรก็ตามขณะนี้ยังไม่ได้มีการสั่งย้ายเจ้าหน้าที่เภสัชกรในคลังยา รพ.ศูนย์อุดรธานี ส่วนตัวนายสมชายนั้น ก็ยังอยู่ในระหว่างพักราชการเพื่อให้ คณะกรรมการสอบสวนหาความจริงอยู่ จนกว่าเรื่องจบ
ด้าน พ.ต.อ.โกวิท เจริญวัฒนศักดิ์ ผกก. สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ส่งชุดสืบสวนสอบสวบ 2 ชุด ออกติดตามจับกุมตัว นายสมชาย ทั้งในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี ใกล้เคียง และพื้นที่กรุงเทพฯ ส่วนการที่ญาติพี่น้องของนายสมชาย ติดต่อที่จะนำตัวนายสมชาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ ก็ทำได้และพร้อมที่จะรับมอบตัว
อย่างไรก็ตาม ตำรวจก็ยังติดตามจับกุมตัวตามปกติ พบตัวก็ต้องจับกุมตัว และเชื่อว่า นายสมชาย ยังหลบหนีหมายจับของศาลจังหวัดอุดรธานีอยู่ในประเทศไทย ไม่ได้หลบหนีออกนอกประเทศและไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน (สปป.ลาว) อย่างที่เป็นข่าว ขณะนี้คณะกรรมการสอบสวน กำลังทำการตรวจสอบย้อนหลังการเคลื่อนไหวของยาของโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานีไปมากกว่า 3 ปี ว่ามีการสั่งซื้อดังกล่าวมามากน้อยเพียงใด ซึ่งจำนวนยาที่ได้รับแจ้งจากทางโรงพยาบาล 4.2 ล้านเม็ดนั้น ก็อาจจะมีมากกว่า
ที่ผ่านมามีเจ้าหน้าที่ ปปส.จากส่วนกลางและ เจ้าหน้าที่ ดีเอสไอ เดินทางมาพบและขอข้อมูลรายละเอียดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคดีดังกล่าว ซึ่งทางตำรวจเมืองอุดรธานี ก็ได้มอบรายละเอียดและเอกสารให้ไปแล้ว ล่าสุด คณะกรรมการได้ใช้มาตรการในการยึดทรัพย์ของ นายสมชายเป็นเงินสดในบัญชี กว่า 7 ล้านบาท, หุ้นในสหกรณ์ รพ.อุดรธานีประมาณ 2 ล้านบาท และรถยนต์ 1 คันเรียบร้อยแล้ว
นอกจากนี้ ก็มีการตั้งข้อหาเพิ่มจากเดิมเป็น 5 ข้อหา ได้แก่ เป็นเจ้าพนักงานยักยอกทรัพย์ 2.เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 3.ขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต 4.จำหน่ายและมีไว้ในครอบครองยาเสพติดที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ประเภท 2 (ซูโดเอฟรีดีน) 4. มียาเสพติดเอาไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย
ขณะที่นายพิชาต ดลเฉลิมยุทธนา ผอ.โรงพยาบาล กล่าวชี้แจงกับผู้สื่อข่าวกรณีการเก็บยาดังกล่าวว่า ทางโรงพยาบาลได้ส่งยาแก้ไอดังกล่าวกลับไปให้ส่วนกลางหมดแล้ว ไม่มียาดังกล่าวอยู่ที่โรงพยาบาลอุดรธานี
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้ขอเข้าพบและขอเข้าบันทึกภาพ โดยผอ.รพ.อุดรธานี กล่าวปฏิเสธที่จะให้ผู้สื่อข่าวเข้าพบ โดยอ้างว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องของทางจังหวัด และคณะกรรมการตรวจสอบ