ตำรวจภูธรเมืองอุดรธานี พร้อมตำรวจปราบปรามยาเสพติดประจำจังหวัดอุดรธานี นำหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านพัก และร้านขายยาของ นายสมชาย แซ่โค้ว อายุ 41 ปี เภสัชกรชำนาญการ โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ผู้ต้องหาคดียักยอกทรัพย์ หลังนำยาแก้หวัดสูตรซูโดอีเฟรดีน ซึ่งใช้เป็นสารตั้งต้นในการผลิตยาเสพติดออกจากโรงพยาบาลกว่า 140,000 เม็ด จากการตรวจค้นไม่พบยาแก้หวัดที่ยักยอกออกจากโรงพยาบาล แต่พบยาแก้หวัดยี่ห้อหนึ่ง ที่มีส่วนผสมของสูตรซูโดอีเฟรดีน จึงอายัดไว้เพื่อตรวจสอบ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหา นายสมชาย เพิ่มเติมอีก 1 ข้อหา
พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนออกติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี คาดว่ายังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ ขณะเดียวกันก็เตรียมประสานไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อให้ตรวจสอบ เนื่องจากคดีนี้อาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ขณะที่ พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมลงพื้นที่เพื่อติดตามข้อมูลการทุจริตเบิกจ่ายยาแก้หวัดที่จังหวัดอุดรธานี วันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.) ว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มใดบ้าง เนื่องจากขณะนี้พบเบาะแสว่า มีการเบิกจ่ายยามากผิดปกติ ทั้งที่จังหวัดอุดรธานี อุตรดิตถ์ และจังหวัดสมุทรสาคร หากพบมีการเชื่อมโยงกัน จะนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อรับเป็นคดีพิเศษ
ขณะที่นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ตรวจพบว่ามี 3 จังหวัด ที่มีการเบิกจ่ายยาซูโดอีเฟรดีนสูงมากผิดปกติ คือ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดอุตรดิตถ์ และล่าสุดที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่ได้รับการรายงานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่ามีการเบิกจ่ายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟรดีนกว่า 1 ล้านเม็ด ให้กับผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ที่เป็นแรงงานต่างด้าวกว่า 100,000 คน ทั้งนี้ได้กำชับให้คณะกรรมการเร่งตรวจสอบเพื่อดำเนินการเอาผิดต่อไป
ขณะเดียวกันได้เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ยาแก้หวัด สูตรผสมซูโดอีเฟรดีน เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอรายละเอียดจากกฤษฎีกา ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น
พล.ต.ต.บุญลือ กอบางยาง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้ส่งชุดสืบสวนออกติดตามผู้ต้องหามาดำเนินคดี คาดว่ายังคงหลบหนีอยู่ในประเทศ ขณะเดียวกันก็เตรียมประสานไปยังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) เพื่อให้ตรวจสอบ เนื่องจากคดีนี้อาจเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
ขณะที่ พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ อินทรขาว ปฏิบัติหน้าที่ผู้บัญชาการสำนักคดีความมั่นคง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เตรียมลงพื้นที่เพื่อติดตามข้อมูลการทุจริตเบิกจ่ายยาแก้หวัดที่จังหวัดอุดรธานี วันพรุ่งนี้ (2 มี.ค.) ว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มใดบ้าง เนื่องจากขณะนี้พบเบาะแสว่า มีการเบิกจ่ายยามากผิดปกติ ทั้งที่จังหวัดอุดรธานี อุตรดิตถ์ และจังหวัดสมุทรสาคร หากพบมีการเชื่อมโยงกัน จะนำเสนอต่อคณะกรรมการเพื่อรับเป็นคดีพิเศษ
ขณะที่นายวิทยา บุรณศิริ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ตรวจพบว่ามี 3 จังหวัด ที่มีการเบิกจ่ายยาซูโดอีเฟรดีนสูงมากผิดปกติ คือ จังหวัดอุดรธานี และจังหวัดอุตรดิตถ์ และล่าสุดที่จังหวัดสมุทรสาคร ที่ได้รับการรายงานข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการว่ามีการเบิกจ่ายยาแก้หวัดสูตรผสมซูโดอีเฟรดีนกว่า 1 ล้านเม็ด ให้กับผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ที่เป็นแรงงานต่างด้าวกว่า 100,000 คน ทั้งนี้ได้กำชับให้คณะกรรมการเร่งตรวจสอบเพื่อดำเนินการเอาผิดต่อไป
ขณะเดียวกันได้เสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีกำหนดให้ยาแก้หวัด สูตรผสมซูโดอีเฟรดีน เป็นวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ขณะนี้อยู่ระหว่างรอรายละเอียดจากกฤษฎีกา ซึ่งจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานได้ง่ายขึ้น
