xs
xsm
sm
md
lg

สังคมยุค “นารีขี่ม้าบักจ้อน”...

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวภาคตะวันออก - ภาพสังคม ที่เห็นอยู่นี้ ภาพสะท้อนชีวิตคนยากคนจน คนที่ช่วยเองตัวไม่ได้ หรือคนที่ไม่จนแต่มานั่งซุกตัวขอทานในตลาดสดยามเช้า หรือตามริมถนนหนทาง

ภาพสังคมเหล่านี้มีให้เห็นมาแต่ยุคของ “หล่อแต่กินไม่ได้” แล้ว ซึ่งตอนนั้นไข่ไก่มีราคาแพงมาก ซ้ำยังกำหนดให้มีการชั่งไข่ขาย

แต่มาถึงยุค “นารีขี่ม้าบักจ้อน” แดดร้อนๆ ไม่ต้องใส่แว่นตาดำ ไข่ไก่มีราคาไม่แพง ไม่ต้องชั่งกิโลขาย ทำงานถึงใจ ได้ใจรากหญ้า ถึงลูกถึงคนกว่ากัน ทำงานเป็นทีมพอมีข่าวไม่ดีเกิดปุ๊บ กระทบต่อคะแนนเสียงปั๊บ พวกข้าราชการหรือพวกที่รับผิดชอบก้นร้อนทันควัน ต้องเด้งจากเก้าอี้ไปแก้ปัญหาในทันทีทันควัน ตรงนี้ได้ใจคนจนไปมากต่อมากแล้ว

กรณีที่เกิดขึ้นเรื่องกับคนไข้ประกันสังคม ซึ่งประสบอุบัติเหตุรถชนกันถึงสลบไปฟื้นที่ รพ.เอกชล 2 เมืองชลบุรีรักษาให้ 3 วัน ให้ออกไปรักษาตัวที่บ้านแล้ว พอเป็นข่าวขึ้นภายใน 72 ชม.เหมือนกัน หัวหน้าสำนักงานประกันสังคมจังหวัดต้องแจ้นออกจากสำนักงาน ไปถึงที่บ้านคนไข้ที่เจ็บป่วยมีอาการสาหัสไปเคลียร์กับ รพ.ที่ระบุในบัตรประกันสังคมไว้นำไป เอกซ์เรย์สมองกับ รพ.ในเครือคือ รพ.เอกชล 1 (ซึ่งไม่รับคนไข้ประกันสังคมแล้ว) ที่มีเครื่องไม้เครื่องมือดีกว่าทันสมัยกว่าแต่วันก่อน

แต่นั่นก็เป็นเวลาหลังจากลูกชายที่มีอาชีพเป็นวิศวกรพาแม่คนไข้ใช้ประกันสังคมไปเอกซเรย์ 2 ถึง 3 แห่งตามร่างกายที่ รพ.สมิติเวชเสียค่าใช้จ่ายรักษาไปราว 6 พันบาททางประกันสังคมก็จ่ายคืนให้ตามสิทธิ และเรื่องจึงยุติลงด้วยดีด้วยกันทั้ง 2 ฝ่ายต่างได้รับความเป็นธรรมกันทั้งคู่

การแก้ไขปัญหาอย่างนี้ไม่เคยมีในยุคของ “หล่อแต่กินไม่ได้” และหากใครเสนอข่าวพาดพิงมาหน่อย ยังใช้พวกจัดตั้งคลิกเข้ามาถล่มเว็บไซต์ข่าวที่นำเสนอให้บิดเบือนประเด็นไป แถมยังมีพวกประชาสัมพันธ์ชั่งไข่ขายส่งคนมาถล่มที่ลงข่าว เรื่องพรรค์อย่างนี้คนพวกนี้เก่งถนัดนัก

นี่มันเป็นเสียยังงี้แหละพี่น้อง ก็ต้องไปตั้ง ครม.เงา เป็น ครม.เงาไปจนตายนั่นแหละ ที่จะมาฉวยโอกาสหาโอกาสจากบนหยดเลือดกองเลือดของพี่น้องเราชาวพันธมิตรฯ ดังกรณี 7 ตุลาคมปี 2551 เพื่อก้าวขึ้นไปสู่อำนาจอีกนั้น.. ให้รอไปอีก 3 ชาติหน้าโน้นเถิด พอมีอำนาจแล้วก็ใช้ไม่เป็น ทั้งซ้ำเติมด้วยการให้สีกากีตั้งข้อหาเอากับแกนนำและนักวิชาการที่ขึ้นเวทีพันธมิตรฯนานาสารพัน

หรืออย่างเช่นกรณีนายวีระ สมความคิด กับ น.ส.ราตรี พิพัฒนไพบูรณ์ ก็เป็นตัวอย่างให้เห็นกัน ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินไทยแท้ๆ ยังไม่ช่วยปกป้องศักดิ์ศรีของคนไทยให้ ปล่อยให้คนทั้งสองถูกเขมรจับตัวไปติดคุกเขมรจนทุกวันนี้

วันนี้ จึงขอนำเสนอภาพข่าวสังคมที่ยังมีคนยากคนจน คนช่วยตัวเองอีกมากที่ต้องออกมาหลบตามซอกมุมตามทางเดินทางเท้า ขอทานเงินเลี้ยงชีพ ทำอย่างไรคนเหล่านี้ ทั้งหญิงชราและชายขี้เหล้าที่ฉกฉวยโอกาสมาขอทานเงินไปกินเหล้าเมายำเป จะได้รับโอกาสได้รับการส่งไปดูแลที่สถานสงเคราะห์คนชราหรือคนที่ติดเหล้าก็เอาไปบำบัดจะได้มีชีวิตที่ดีอยู่ในสังคมต่อไป

มีภาพสังคมภาพสุดท้ายที่เขียนว่า “ไข่ไก่หมดแล้ว” เพราะขายดีมาก แต่ละวันมีเท่าไหร่ขายไม่พอ ซึ่งเกิดในยุคนี้ยุค “นารีขี่ม้าบักจ้อน” ไข่ของนารี..ไม่แพงจริงๆ

แต่ไปแพงเอากับน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซล ที่ทำให้ราคาสินค้า ราคาข้าวแกงของกินของใช้ขึ้นราคาไปแล้วลงไม่ได้เท่านั้น

ตั้งแต่ได้นำข่าวภาพเรื่องคนไข้ถือบัตรประกันสังคมยังเจ็บหนักช่วยเหลือตัวเองยังไม่ได้ แต่ รพ.ให้ออกไปพักรักษาตัวที่บ้านท่ามกลางความกังขา ก็มีข่าวออกมาว่า 1 เมษายนนี้เป็นต้นไป ผู้ป่วยฉุกเฉินจาก3กองทุนสุขภาพภาครัฐ สามารถเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเอกชนได้ฟรีตามสิทธิที่มีการวางกรอบไว้ ต้องอยู่ในภาวะคุกคามชีวิตและทุกข์ทรมานแสนสาหัส

ข่าวนี้ ASTV ผู้จัดการออนไลน์ นำเสนอเมื่อเวลา 00.16 น. วันที่ 22 มีนาคม 255 โดยนำเสนอมีรายละเอียดครบครัน ผู้ที่ให้ข่าวนี้คือ ร.ท.หญิง สุนิสา เลิศภควัตร โฆษกพรรคหนึ่ง ให้สัมภาษณ์มีรายละเอียดด้วยว่า 3 กองทุนนั้นมีกองทุนสวัสดิการข้าราชการ กองทุนประกันสังคม และโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ในข่าวยังบอกด้วยว่า เตรียมเชิญ 321 โรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศมาขอความร่วมมือ กันอิดออดรับแต่คนรวย

ซึ่งจะมีการประชุมกัน 28 มีนาคมนี้ ข่าวบอกว่าเพื่อป้องกันปัญหาคิดเห็นไม่ตรงกันระหว่างแพทย์และคนไข้ว่าอาการแบบไหนคือกรณีฉุกเฉิน รายละเอียดเชิญท่านผู้สนใจอ่านเอาจากเวปไซด์แล้วกัน

เรื่องนี้แม้จะยังเป็นแค่ข่าว..ยังไม่ใช่เรื่องที่เกิดขึ้นจริงและทำได้จริงๆ แล้วได้ผล แต่ข่าวนี้มีนัยะบ่งบอกถึงมันสมองทีมงานของพรรคนี้ที่แก้เกมข่าวไม่ดีที่มีผลกระทบต่อคะแนนเสียงของพรรคได้ทันใจ ส่วนจะทำได้หรือไม่นั้นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ก็ขอบอกว่า ด้วยอำนาจรัฐที่มีอยู่ในมืออีกทั้ง รพ.เอกชนทั่วประเทศ 321 แห่งนั้น...

มีกี่ 10 แห่งเป็นของใครกันเอ่ย..ของใครคนนั้นที่บินร่อนอยู่ต่างประเทศ คงจะเอาเข้ามานำร่องในโครงการดีเดย์นี้ด้วยเป็นแน่ ถ้าทำได้เห็นผลเหมือนอย่างเรื่องคนป่วยถือบัตรประกันสังคมอันเกิดเหตุที่ รพ.เอกชล 2 ผู้เขียนรายงานภาพข่าวชิ้นนี้ ก็ต้องขอแสดงความยินดีไว้กับผู้ป่วยฉุกเฉินทั้ง 3 กองทุนไว้ล่วงหน้า

ภาพข่าวสังคมที่นำมาเสนอนี้ หน่วยงานในกระทรวงไหนรับผิดชอบ เช่น หน่วยงานประชาสงเคราะห์หรือกระทรวงอะไรก็ตามที่รับผิดชอบอยู่ ควรจะเข้ามาช่วยเหลือด้วยเมตตาเอาคนชราที่เป็นคนยากคนจนจริงๆ ไปพักอาศัยได้อยู่กินในสถานสงเคราะห์คนชราด้วยเถิด หน่วยงานสังคมหน่วยไหนทำได้ หน่วยนั้นคนนั้นก็จะได้บุญแถมพก บอกให้ก็ได้ว่าภาพนี้เกิดขึ้นที่ จ.ชลบุรีหัวเมืองภาคตะวันออกนี่เอง

ส่วนที่เขียนไปว่า “นารีขี่ม้าบักจ้อน” ก็จะต้องเขียนถึงใหม่ว่าเป็น..“นารีขี่ม้าขาว” อย่างจริงจังเสียแล้วล่ะซี่ และในเรื่องดีเดย์ 1 เมษายนนี้ ถ้าสิ่งที่พูดเป็นข่าวแล้วทำให้เกิดประโยชน์กันคนป่วยไข้คนยากคนจนที่ต้องเข้า รพ.ยามฉุกเฉินได้จริงๆ ไม่ได้เป็นเพียงข่าวประชาสัมพันธ์เท่านั้น ก็น่าจะเป็นประโยชน์กับประชาชนทุกคน ที่ต้องรอดูผลที่จะเกิดกันต่อไป

...................................................................
รายงานภาพข่าวโดย ไทย เอกราช
กำลังโหลดความคิดเห็น