ศรีสะเกษ -ชาวบ้านภูมิซรอล ยึดอาชีพถ่ายภาพด่วน “ผามออีแดง” ร้องสื่อขอความเป็นธรรม ถูกทหารพรานกระชากคอเสื้อทำร้ายร่างกาย เหตุถ่ายภาพนักท่องเที่ยว ขณะยืนถืออาวุธปืนสงครามของทหารพราน
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายจันทร์ องค์สาม อายุ 53 ปี ชาวบ้านภูมิซรอลหมู่ 2 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ประกอบอาชีพถ่ายรูปด่วนให้กับนักท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันนี้ ขณะที่ได้นำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมบริเวณผามออีแดงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร โดยขึ้นไปเที่ยวชมบนจุดชมวิวผามออีแดง และได้ทำหน้าที่เป็นไกด์พานักท่องเที่ยว 3 คนขึ้นไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆ
จนกระทั่งไปถึงป้ายหินที่เขียนคำว่า “ผามออีแดง” ก็ได้มีทหารพรานนายหนึ่งซึ่งหารายได้พิเศษด้วยการถ่ายรูปด่วนให้กับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน ได้เดินมายื่นปืนซึ่งเป็นอาวุธประจำกายให้นักท่องเที่ยวถือแล้วถ่ายรูปให้เป็นที่ระลึก
นายจันทร์ กล่าวต่อไปว่า แต่พอตนจะถ่ายภาพนักท่องเที่ยวถือปืนด้วย ทหารพรานก็สั่งห้ามถ่าย ตนจึงบอกว่าถ้าทำอย่างนี้ตนก็จะหากินลำบาก ทีหลังอย่าทำได้ไหม เมื่อได้ยินตนพูดอย่างนั้น ทหารพรานคนนั้นก็เดินเข้ามาถามว่าแล้วมีปัญหาอะไร จึงได้โต้เถียงกันเล็กน้อยจนทหารพรานคนนั้นโกรธมากคุมสติไม่อยู่ จึงได้จับคอเสื้อตนพร้อมกับกระทุ้งลงใส่โขดหินต่อหน้านักท่องเที่ยวหลายสิบคน และมีทหารไทยชุดลายยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้วย ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย พร้อมกับกล้องถ่ายรูปของตนกระแทกใส่หิน ยังไม่รู้ว่ากล้องถ่ายรูปจะเสียหายหรือไม่
นายจันทร์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนประกอบอาชีพรับถ่ายภาพและเป็นไกด์นำเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว บริเวณผามออีแดงมาตั้งแต่ปี 2545 จนกระทั่งมีการปิดด่านอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารมาเป็นระยะ และล่าสุด รัฐบาลได้สั่งให้เปิดด่านให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวได้อีกครั้งตนก็กลับมายึดอาชีพนี้อีกครั้ง ที่ผ่านมา ก็ไม่มีปัญหาอะไรจนกระทั่งมาเกิดปัญหาขึ้นในวันนี้ ซึ่งตนก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บึงมะลู ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ด้าน นายโชคชัย สายแก้ว นายก อบต.เสาธงชัย กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องนี้จากนายจันทร์แล้วและได้มีการไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู ไว้แล้ว ซึ่งตนจะได้ร่วมกับนายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนก่อน
โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า เพราะว่าทหารพรานมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศชาติ และปกป้องชาวบ้านบริสุทธิ์ไม่ใช่ไปหาเรื่องทำร้ายชาวบ้าน ทหารพรานไม่ควรที่จะใช้ความรุนแรงกระทำกับชาวบ้านที่ทำมาหากินโดยสุจริตแบบนี้ ตนจะได้ประสานงานกับนายทหารระดับสูงของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 เพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่ถูกทำร้ายร่างกายต่อไป
เมื่อเวลา 16.30 น.วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายจันทร์ องค์สาม อายุ 53 ปี ชาวบ้านภูมิซรอลหมู่ 2 ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นชาวบ้านที่ประกอบอาชีพถ่ายรูปด่วนให้กับนักท่องเที่ยวบนอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันนี้ ขณะที่ได้นำนักท่องเที่ยวไปเที่ยวชมบริเวณผามออีแดงอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร โดยขึ้นไปเที่ยวชมบนจุดชมวิวผามออีแดง และได้ทำหน้าที่เป็นไกด์พานักท่องเที่ยว 3 คนขึ้นไปถ่ายรูปตามจุดต่างๆ
จนกระทั่งไปถึงป้ายหินที่เขียนคำว่า “ผามออีแดง” ก็ได้มีทหารพรานนายหนึ่งซึ่งหารายได้พิเศษด้วยการถ่ายรูปด่วนให้กับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน ได้เดินมายื่นปืนซึ่งเป็นอาวุธประจำกายให้นักท่องเที่ยวถือแล้วถ่ายรูปให้เป็นที่ระลึก
นายจันทร์ กล่าวต่อไปว่า แต่พอตนจะถ่ายภาพนักท่องเที่ยวถือปืนด้วย ทหารพรานก็สั่งห้ามถ่าย ตนจึงบอกว่าถ้าทำอย่างนี้ตนก็จะหากินลำบาก ทีหลังอย่าทำได้ไหม เมื่อได้ยินตนพูดอย่างนั้น ทหารพรานคนนั้นก็เดินเข้ามาถามว่าแล้วมีปัญหาอะไร จึงได้โต้เถียงกันเล็กน้อยจนทหารพรานคนนั้นโกรธมากคุมสติไม่อยู่ จึงได้จับคอเสื้อตนพร้อมกับกระทุ้งลงใส่โขดหินต่อหน้านักท่องเที่ยวหลายสิบคน และมีทหารไทยชุดลายยืนดูเหตุการณ์อยู่ด้วย ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย พร้อมกับกล้องถ่ายรูปของตนกระแทกใส่หิน ยังไม่รู้ว่ากล้องถ่ายรูปจะเสียหายหรือไม่
นายจันทร์ ยังกล่าวด้วยว่า ตนประกอบอาชีพรับถ่ายภาพและเป็นไกด์นำเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยว บริเวณผามออีแดงมาตั้งแต่ปี 2545 จนกระทั่งมีการปิดด่านอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหารมาเป็นระยะ และล่าสุด รัฐบาลได้สั่งให้เปิดด่านให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวได้อีกครั้งตนก็กลับมายึดอาชีพนี้อีกครั้ง ที่ผ่านมา ก็ไม่มีปัญหาอะไรจนกระทั่งมาเกิดปัญหาขึ้นในวันนี้ ซึ่งตนก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.บึงมะลู ไว้เป็นหลักฐานแล้ว
ด้าน นายโชคชัย สายแก้ว นายก อบต.เสาธงชัย กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องนี้จากนายจันทร์แล้วและได้มีการไปแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู ไว้แล้ว ซึ่งตนจะได้ร่วมกับนายวีระยุทธ ดวงแก้ว กำนัน ต.เสาธงชัย ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นให้ชัดเจนก่อน
โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่า เพราะว่าทหารพรานมีหน้าที่ในการป้องกันประเทศชาติ และปกป้องชาวบ้านบริสุทธิ์ไม่ใช่ไปหาเรื่องทำร้ายชาวบ้าน ทหารพรานไม่ควรที่จะใช้ความรุนแรงกระทำกับชาวบ้านที่ทำมาหากินโดยสุจริตแบบนี้ ตนจะได้ประสานงานกับนายทหารระดับสูงของหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 เพื่อให้ความเป็นธรรมกับชาวบ้านที่ถูกทำร้ายร่างกายต่อไป