เชียงราย - อากาศเชียงรายยังแย่ซ้ำซาก ล่าสุด ค่า PM10 ที่แม่สายใกล้ทะลุ 500 ไมโครกรัมแล้ว ชาวบ้านขับขี่รถเริ่มมองไม่เห็นดอยนางนอนทั้งที่อยู่ขนานกับถนน แถมฝั่งท่าขี้เหล็กยังพบร่องรอยการเผาควันฟุ้งกินบริเวณกว้าง ทำประชาชนต้องงัดหน้ากากมาใส่กันฝุ่น ด้านเครื่องบินกองทัพอากาศยังคงบินโปรยน้ำบรรเทาหมอกควันต่อเนื่อง
วันนี้ (21 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า สภาพปัญหาฝุ่นละอองและหมอกควันที่ จ.เชียงรายยังคงวิกฤตหนักกว่าเดิม โดยเฉพาะตามพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบว่า สภาพอากาศขมุกขมัวจนผู้ที่สัญจรผ่านไปมาบนถนนพหลโยธินก่อนถึงตัวแม่สายไม่สามารถมองเห็นเทือกเขาดอยนางนอนได้
ทั้งๆ ที่เทือกเขาดอยนางนอนตั้งขนานไปกับถนนสายดังกล่าว เนื่องจากมีฝุ่นละอองและหมอกควันปกคลุมไปทั่วบริเวณอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน พบที่บ้านป่าสัก จ.ท่าขี้เหล็ก ตรงข้ามกับ อ.แม่สาย มีร่องรอยการเกิดไฟป่าซึ่งก่อให้เกิดกลุ่มควันฟุ้งในอากาศเป็นบริเวณกว้าง
ด้านกรมควบคุมมลพิษรายงานผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ภาคเหนือ ว่า วันที่ 21 มี.ค.พบปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) เฉลี่ย 24 ชั่วโมง มีค่าระหว่าง 111.5-470.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลางถึงอันตราย โดยปริมาณฝุ่นละอองในหลายจังหวัดยังคงสูงเกินเกณฑ์มาตรฐานและอยู่ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ
ขณะที่การตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ จ.เชียงราย นั้น ที่สถานีสำนักงานสาธารณสุขแม่สาย อ.แม่สาย สามารถวัดค่า PM10 ได้สูงถึง 470.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรแล้ว ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับอันตราย และถือเป็นค่า PM10 ที่มากที่สุดเท่าที่เคยตรวจวัดได้ในพื้นที่ ส่วนที่ อ.เมือง คุณภาพอากาศที่วัดจากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย อยู่ที่ 241.8 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ สภาพอากาศดังกล่าว ทำให้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีหมอกหนา ต่างพากันนำหน้ากากอนามัยมาสวมใส่ โดยเฉพาะบริเวณหน้าด่านพรมแดนไทย-พม่า อ.แม่สาย ซึ่งเป็นเขตที่มีผู้คนพลุกพล่าน ขณะที่เครื่องบินโปรยน้ำของกองทัพอากาศ ยังคงออกบินโปรยน้ำตามจุดต่างๆ เพื่อบรรเทาสภาพปัญหาต่อไป