เชียงราย - หลังฝนซา - พายุฤดูร้อนหาย อากาศเหนือฟ้าเมืองเชียงราย และชายแดนแม่สาย กลับมาวิกฤตอีกครั้งทันที พบค่าฝุ่นละอองพุ่งเกินมาตรฐานซ้ำ โดยเฉพาะชายแดนแม่สาย ล่าสุดฝุ่นละอองสูงถึง 336 ไมโครกรัม/ลบ.ม. หลายคนอยู่บน “พระธาตุดอยเวา” มองไม่เห็นเจดีย์ชเวดากองจำลองแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.เชียงราย ว่า ภายหลังจากเกิดฝนตกหนัก และพายุลมพัดแรงตั้งวันที่ 13-15 มี.ค.55 ที่ผ่านมา จนทำให้ปัญหาด้านฝุ่นละอองและหมอกควันที่เกินค่ามาตรฐานหายไป ล่าสุดฝนได้ทิ้งช่วงมาได้ประมาณ 2-3 วันปรากฏว่า ขณะนี้สภาพหมอกควัน - ฝุ่นละออง ในหลายพื้นที่ของจังหวัดได้กลับคืนมาหนาทึบอีกครั้ง
โดยเฉพาะชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย พบมีกลุ่มหมอกควันและฝุ่นละอองหนาทึบกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา จนทำให้ทัศนวิสัยการมองเห็นย่ำแย่อย่างมาก ประชาชนที่ขึ้นไปบนพระธาตุดอยเวา ต.เวียงพางคำ เพื่อชมวิวชายแดนไทย-พม่า ซึ่งทุกครั้งจะเห็นทิวทัศน์ระยะไกลจนไปถึงเจดีย์ชเวดากองจำลองในฝั่ง จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศพม่า ปรากฏว่าไม่สามารถมองเห็นได้เพราะมีหมอกควันปกคลุมไปทั่วบริเวณ เช่นเดียวกับพื้นที่ชั้นในของเชียงราย ที่หมอกควันและฝุ่นละอองหวนกลับมาวิกฤตอีกครั้ง
กรมควบคุมมลพิษได้ตรวจวัดคุณภาพอากาศในพื้นที่ จ.เชียงราย พบฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอนในอากาศเมื่อวันที่ 17 มี.ค.55 ที่ผ่านมา พบว่า ในเขต อ.เมือง บริเวณสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงราย ยังอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัยที่ 85.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรซึ่งถือเป็นค่าปานกลางที่ไม่มีอันตราย แต่ที่ชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย บริเวณหน้าสำนักงานสาธารณสุข อ.แม่สาย สูงขึ้นเป็น 167 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
แต่ในวันนี้ กรมควบคุมมลพิษรายงานว่า ค่าฝุ่นละอองใน อ.เมืองเชียงราย วัดได้ 201 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ อ.แม่สาย อยู่ที่ 336 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ขณะที่ค่าความปลอดภัยต่อสุขภาพอยู่ที่ 120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรลงมา
ทั้งนี้ สภาพอากาศในช่วงนี้ถือว่าแปรปรวนโดยหลังจากมีฝุ่นละอองและหมอกควันในปริมาณเกินค่ามาตรฐานอย่างมากตั้งแต่เดือน ก.พ.จนถึงต้นเดือน มี.ค.55 กระทั่งวันที่ 12 มี.ค.ได้เกิดฝนตกหนักและเริ่มมีพายุฤดูร้อนพัดแรงจนสร้างความเสียหายในพื้นที่หลายอำเภอ โดยบ้านเรือนประชาชนไม่น้อยกว่า 2,600 หลังคาเรือนเสียหาย สวนยางพาราในเขต อ.แม่จัน - อ.แม่สาย หักโค่นลงหลายแห่ง เสาไฟฟ้าในพื้นที่ อ.เมือง และ อ.แม่สาย หักโค่นจนต้องซ่อมแซม
ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาระบุว่าจะมีฝนตกหนักและพายุลมพัดแรงในวันที่ 18-19 มี.ค.55 นี้แต่พบว่าช่วงกลางวันวันที่ 18 มี.ค.สภาพอากาศยังคงขมุกขมัวไปด้วยหมอกควันและฝุ่นละอองโดยยังไม่มีทีท่าว่าจะมีฝนตกลงมา เพื่อชะล้างอากาศให้ปลอดภัยเหมือนเดิมแต่อย่างใด
