เชียงราย - หมอกควันไฟป่าเหนือฟ้าแม่สาย-เชียงราย วิกฤตเพิ่ม ชายแดนระดับฝุ่นละอองพุ่งทำสถิติใหม่ 441.6 ไมโครกรัม เข้าขั้นอันตรายต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ขณะที่เครื่องบินโปรยน้ำ 2 ลำเร่งออกปฏิบัติการเต็มที่ แต่ยัง “เอาไม่อยู่” นักท่องเที่ยวเริ่มขอยกเลิกโปรแกรมแล้ว
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงรายแจ้งว่า วันนี้ (20 มี.ค.) สภาพอากาศโดยทั่วไปของ จ.เชียงราย ยังคงปกคลุมไปด้วยหมอกควันและฝุ่นละอองทั่วพื้นที่ ค่าของอากาศในพื้นที่ อ.แม่สาย เข้าสู่ขั้นอันตรายต่อสุขภาพติดต่อกันเป็นวันที่ 3 แล้วโดยกรมควบคุมมลพิษ ตรวจวัดคุณภาพอากาศที่สถานีสาธารณสุข อ.แม่สาย พบว่า ระดับฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน เพิ่มขึ้นไปถึง 441.6 ไมโครกรัม/ลบ.ม.เพิ่มจากวันก่อน (19 มี.ค.) ที่วัดได้ 431.6 ไมโครกรัม/ลบ.ม.
ส่วน อ.เมืองเชียงราย ตรวจวัดได้ 226.5 ไมโครกรัม/ลบ.ม. ลดลงจากวันก่อนที่อยู่ที่ 267.7 ไมโครกรัม/ลบ.ม. แต่ก็ยังถือว่าเกินค่ามาตรฐานความปลอดภัยต่อสุขภาพที่ 120 ไมโครกรัม/ลบ.ม.อยู่
ขณะที่เครื่องบินบรรทุกน้ำของกองทัพอากาศ ซึ่งถูกส่งมาประจำอยู่ในพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค.55 ที่ผ่านมา ต้องขึ้นบินโปรยในอากาศและจุดที่เกิดไฟป่าอย่างหนัก โดยนาวาอากาศตรี อำนาจ ปวงสุข ผบ.หมวดบิน 1 ฝ่ายยุทธการ ฝูงบิน 416 กองบิน 46 พิษณุโลก นำเครื่องบิน 2 ลำพร้อมลูกเรือจำนวน 26 นาย ออกปฏิบัติการนำน้ำบรรทุกเครื่องบินออกโปรยในอากาศเพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับชั้นอากาศในเขต อ.เมือง ต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 แล้ว หลังจากได้เริ่มทดลองโปรยน้ำในพื้นที่ตัวเมืองเชียงราย ไปแล้วเมื่อ 19 มี.ค.55 จำนวน 3 เที่ยว แต่ล่ะเที่ยวสามารถบรรทุกน้ำได้ประมาณ 2,000-3,700 ลิตร
และช่วงที่เกิดวิกฤติหนักครั้งนี้ เครื่องบินได้พยายามเน้นโปรยน้ำตามย่านชุมชนและบริเวณเรียบชายแดนไทย-พม่า ด้าน อ.แม่สาย เพื่อให้สถานการณ์บรรเทาลง แต่ด้วยความหนาแน่นและบริเวณที่เกิดฝุ่นละออง-หมอกควัน ทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ระดับหนึ่งเท่านั้น
นายยุทธนา จิตรอบอารีย์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย กล่าวว่า ปัญหาหมอกควันครั้งใหม่นี้ถือว่าหนาแน่นและเริ่มผลกระทบต่อการบินของเครื่องบินที่ให้บริการยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวงบ้างบางส่วนแล้ว เนื่องจากทัศนวิสัยในการมองเห็นลดลงจากเดิมที่มีอยู่กว่า 10 กิโลเมตร เหลือเพียงประมาณ 2 กิโลเมตร ทำให้ทางการท่าอากาศยานได้เตือนให้นักบินเพิ่มความระมัดระวังในการบินโดยเฉพาะการลงจอดเพื่อความปลอดภัย แต่สภาพโดยทั่วไปยังคงสามารถบินขึ้นและลง ได้ตามปกติอยู่ ยังไม่ถึงขั้นต้องมีการงดบินหรือเลื่อนการขึ้นลงของเครื่องบิน
ด้าน นายอภิชา ตระสินธิ์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเชียงราย กล่าวว่า วิกฤตหมอกควันรอบแรกตั้งแต่เดือน ก.พ.-ต้นเดือน มี.ค.55 ไม่ค่อยกระทบต่อการท่องเที่ยวมากนัก แต่เมื่อเกิดขึ้นครั้งใหม่นี้ได้ทำให้ตัวเลขของนักท่องเที่ยวลดลงเล็กน้อยประมาณ 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีการยกเลิกโปรแกรมการท่องเที่ยวและอื่นๆ ดังนั้นจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบังคับใช้กฎหมายในการควบคุมการเผาทุกชนิดอย่างเคร่งครัดด้วย