คนแม่เมาะรุมค้าน กฟผ.ขึ้นโรงไฟฟ้าใหม่ ย้ำต้องย้ายคนออก-เยียวยาแผลเก่าก่อน

ลำปาง - ชาวแม่เมาะเรียกร้องให้ กฟผ.เยียวยาและป้องกันปัญหาผลกระทบด้านมลพิษให้เสร็จสิ้นก่อนก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ ระบุที่ผ่านมาชาวบ้านที่ถูกอพยพยังไม่ได้รับการเยียวยา เอกสารสิทธิในที่ดินทำกิน-ที่อยู่อาศัย ยังไม่ได้รับการเหลียวแล ย้ำต้องอพยพชาวบ้านห้วยคิงออกจากพื้นที่ทั้งหมดก่อน

วันนี้ (19 มี.ค.) ชาวบ้านห้วยคิง หมู่ที่ 6 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ กว่า 300 คน ได้มารวมตัวกันที่ลานด้านหน้าสำนักงานเทศบาลตำบลแม่เมาะ และมีแกนนำเครือข่ายสภาประชาชน ต.แม่เมาะ ขึ้นเวทีเรียกร้องให้ กฟผ.แสดงความรับผิดชอบปัญหาผลกระทบจากมลพิษที่เกิดจากการทำเหมืองลิกไนต์ และการผลิตกระแสไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ

โดยพวกเขาเรียกร้องให้ กฟผ.เร่งดำเนินการออกโฉนดที่ดินหรือเอกสารสิทธิ์ในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยให้กับชาวบ้านโดยเร็ว พร้อมกับระบุว่า ที่ผ่านมา กฟผ.ได้อพยพชาวบ้านออกจากพื้นที่หลายหมู่บ้าน เพื่อใช้ที่ดินขุดถ่านหินลิกไนต์นำไปเป็นเชื้อเพลิงผลิตกระแสไฟฟ้า จนก่อให้เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ อาทิ ฝุ่น กลิ่น เสียง และก๊าซพิษ ทำให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนและเจ็บป่วย

นายวิวัฒน์ ปินตา แกนนำสภาประชาชน ต.แม่เมาะ ระบุว่า พวกตนไม่ได้คัดค้านการก่อสร้างโรงไฟฟ้า หน่วยที่ 4-7 ซึ่งอยู่ในระหว่างการทำประชาพิจารณ์ในรอบที่สองอยู่ในขณะนี้ แต่คนตำบลแม่เมาะ และพื้นที่ใกล้เคียง ต้องการให้ กฟผ.แสดงความรับผิดชอบ และปฏิบัติตามกฎหมาย โดยอพยพชาวบ้านห้วยคิง หมู่ 6 ต.แม่เมาะ ซึ่งถือว่าอยู่ใกล้โรงไฟฟ้าที่จะสร้างใหม่มากที่สุด และจะได้รับผลกระทบจากโครงการเหมืองลิกไนต์ เฟส 5 เฟส 6 รวมถึงโรงไฟฟ้าที่จะก่อสร้างใหม่มากที่สุดเช่นกัน

“ที่ผ่านมา กว่า 10 ปีแล้ว ที่ชาวบ้านห้วยคิง ต้องได้รับความเดือดร้อน ทั้งมลพิษทางเสียง ฝุ่น กลิ่นเหม็น และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ ทำให้ชาวบ้านเจ็บป่วย ไร้ที่ทำกิน ไม่มีเอกสารสิทธิทั้งในที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัย เพราะถูกทางราชการเวนคืนไปทั้งหมด ความเดือดร้อนเดิมๆ กฟผ.ยังไม่มีการแก้ไขและเยียวยา แต่กำลังจะก่อปัญหาใหม่ขึ้นอีก ซึ่งการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขึ้นใหม่ทดแทนโรงเก่า ชาวแม่เมาะไม่เคยคัดค้านและเสียสละอยู่แล้ว แต่ กฟผ.และคนทั่วประเทศก็ต้องเห็นใจคนแม่เมาะด้วย เพราะพวกเราเดือดร้อนจริงๆ”นายวิวัฒน์ กล่าว

นางแสงจันทร์ มูลซาว ผู้ใหญ่บ้านห้วยคิง หมู่ 6 ต.แม่เมาะ กล่าวว่า เคยทำหนังสือยืนถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมทั้ง กฟผ.แม่เมาะ เพื่อให้ดำเนินการเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากมลพิษที่เกิดจากการทำเหมืองลิกไนต์และการผลิตไฟฟ้า และให้เร่งดำเนินการอพยพชาวบ้านที่เหลืออยู่กว่า 300 ครอบครัวออกพ้นรัศมี 5 กิโลเมตร จัดตั้งกองทุนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบทั้งหมด แต่ก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า

นางแสงจันทร์ ย้ำว่า การที่ กฟผ.จะก่อสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ทดแทนโรงเก่า หน่วยที่ 4-7 ชาวตำบลแม่เมาะไม่เคยคัดค้าน แต่ กฟผ.ก็ต้องให้ความมั่นใจกับชาวบ้านว่าจะต้องไม่ได้รับความเดือดร้อนจากมลพิษจากการทำเหมืองและโรงไฟฟ้าเหมือนที่เคยเกิดขึ้นอีก

“ที่ผ่านมา หลายกรณี กฟผ.ไม่เคยปฏิบัติตามกฎหมายและกระทำการละเมิด สร้างความเดือดร้อนอย่างต่อเนื่องและมีคดีค้างอยู่ในศาลหลายคดีด้วย หาก กฟผ.ไม่ได้ดำเนินการตามที่ชาวบ้านเรียกร้องนี้ ก็จะมีการคัดค้านไม่ให้มีการก่อสร้างโรงไฟฟ้าจนถึงที่สุด”