พิจิตร - เมืองชาละวันประกาศพื้นที่ภัยพิบัติแล้งแล้ว 4 อำเภอ คุม 13 ตำบล 103 หมู่บ้าน เผย “ทับคล้อ-สากเหล็ก” ถึงขั้นต้องจัดสรรเวลาจ่ายน้ำประปาให้ชาวบ้าน
นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงสถานการณ์ภัยแล้งของจังหวัดพิจิตร ว่า ขณะนี้แหล่งน้ำตามธรรมชาติในเขตพื้นที่ อ.เมือง อ.บางมูลนาก อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน ได้แห้งขอด ส่งผลให้ชาวบ้านต้องขาดน้ำกินน้ำใช้
ดังนั้นจึงได้ประกาศให้พื้นที่ 4 อำเภอที่ครอบคลุม 13 ตำบล 103 หมู่บ้าน ให้เป็นพื้นที่ภัยพิบัติภัยแล้ง เพื่อให้นายอำเภอสามารถใช้เงินฉุกเฉิน ซึ่งเป็นเงินงบประมาณในการบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชน ซึ่งในเบื้องต้นได้ให้ อบต.และเทศบาลต่างๆ ในพื้นที่ 4 อำเภอดังกล่าวออกแจกจ่ายน้ำดื่มสะอาดให้กับประชาชนตามหมู่บ้านต่างๆ ในถิ่นทุรกันดารแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติภัยแล้งของ 4 อำเภอนั้น ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่แนวชายแดนที่ติดต่อกับจังหวัดเพชรบูรณ์ และติดต่อกับ อ.เนินมะปรางของ จ.พิษณุโลก ซึ่งไม่มีระบบชลประทาน และไม่มีแม่น้ำไหลผ่าน ดังนั้นเมื่อถึงหน้าแล้งคราวใดก็ต้องประกาศภัยพิบัติภัยแล้งเช่นนี้ทุกปี
โดยเฉพาะในเขต อ.ทับคล้อ ระบบน้ำประปาก็ต้องจัดสรรเวลาในการแจกจ่ายน้ำ เนื่องจากต้องสูบน้ำมาจากแม่น้ำน่านเขต อ.ตะพานหิน ที่ต่อท่อจ่ายน้ำมาระยะทางกว่า 25 กม. เช่นเดียวกับ อ.สากเหล็ก ก็ต้องสูบน้ำจากแม่น้ำน่านของ อ.เมืองพิจิตร ที่ต่อท่อมาระยะทาง 17 กม. ด้วยเช่นกันจึงทำให้ชาวบ้านเดือดร้อนกันทั่วหน้า
ส่วนเรื่องการทำการเกษตรส่วนใหญ่ก็จะทำนาปีได้แค่เพียงปีละ 1 ครั้ง ขณะที่การทำการเกษตรนอกฤดูกาลก็จะหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย อย่างเช่น การปลูกแตงโมแค่เพียงครอบครัวละ 3-5 ไร่ ซึ่งรวมทั้งอำเภอแล้วก็ไม่เกิน 2-3 พันไร่เท่านั้น จึงทำให้มีแรงงานหนุ่มสาว อพยพไปขายแรงงานในเมืองหลวงและจะกลับมาอีกครั้งในช่วงฤดูกาลทำนาปี ซึ่งเป็นเช่นนี้ประจำ