พิจิตร - เมืองชาละวันอ่วมหนักทั้งลุ่มน้ำยม-น้ำน่าน ล้นตลิ่งเพิ่ม หลังทั้งเขื่อนสิริกิติ์-เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน ปล่อยน้ำเพิ่ม แถมมีน้ำป่าจากเทือกเขาด้านเพชรบูรณ์ไหลทะลักซ้ำ
วันนี้ (23 ส.ค.) นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมของจังหวัดพิจิตรที่ขณะนี้ถูกน้ำท่วมหนักอยู่แล้วในพื้นที่ 8 อำเภอ ทั้งลุ่มน้ำยมและลุ่มน้ำน่าน ล่าสุดระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลกระทบมาจากการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ที่สามารถกักเก็บน้ำได้ 9,700 ล้านคิว รวมถึงเขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก ที่กักเก็บน้ำได้ 800 ล้านคิว ซึ่งทั้ง 2 เขื่อนนี้มีน้ำมากเกินกำลังกว่าที่เขื่อนจะเก็บไว้ได้แล้ว
ทั้งนี้ ตามหลักชลประทานจะต้องพร่องน้ำให้เหลือ 50% เพื่อรอรับน้ำฝนจากพายุอีกหลายลูก ดังนั้นตั้งแต่เมื่อเที่ยงคืนที่ผ่านมาเมื่อทั้ง 2 เขื่อนระบายน้ำลงมาทำให้ขณะนี้น้ำในแม่น้ำยมที่ อ.สามง่าม ทางเหนือของ จ.พิจิตร ระดับน้ำสูงล้นตลิ่งแล้ว 109 ซม. มีน้ำล้นตลิ่งตลอดระยะทาง 124 กม.ไปจนถึง อ.โพทะเล ที่อยู่ทางด้านใต้ติดกับ อ.ชุมแสง จ.นครสวรรค์ ที่มีน้ำล้นตลิ่งสูง 101 ซม.
ส่วนในแม่น้ำน่านจาก อ.เมือง อ.ตะพานหิน ไปจนถึง อ.บางมูลนาก ตลอดระยะทาง 97 กม.น้ำท่วมทั้งสองฝากฝั่ง โดยมีน้ำล้นตลิ่งสูงถึง 103 ซม. จึงทำให้วันนี้พื้นที่พิจิตรต้องถูกน้ำท่วมหนักกลายเป็นเมืองใต้บาดาล
นอกจากนี้ ในพื้นที่ด้านทิศตะวันออกของแม่น้ำน่าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของ อ.สากเหล็ก ที่ติดกับ อ.วังทอง อ.เนินมะปราง ของจ.พิษณุโลก รวมถึง อ.วังทรายพูน และ อ.ทับคล้อ ที่ติดกับเขต อ.วังโป่ง เขตเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่มีฝนตกหนัก 2-3 วันที่ผ่านมา ทำให้น้ำไหลบ่าจนส่งผลให้ถนนทางหลวงหมายเลข 11 ตากฟ้า-เขาทราย-วังทอง น้ำท่วมถนนขาดเป็นระยะทางหลายกิโลเมตร
อีกทั้งน้ำยังไหลบ่าเข้าท่วมตลาดทับคล้อ และจะไหลต่อไปยัง อ.ดงเจริญ และอ.บางมูลนาก ต่อไปอีกด้วยจึงทำให้ทุกพื้นที่ต้องระทมด้วยภัยพิบัติน้ำท่วมเสียหายกันทั่วหน้า