รมว.เกษตรฯบอกเหนือ-กลาง รับสภาพน้ำท่วม ชี้ “สิริกิติ์” น้ำเต็มต้องระบาย-ก่อนแตก

พิจิตร - รมว.เกษตรฯ ดูน้ำท่วมลุ่มน้ำน่าน-น้ำยม แจกถุงยังชีพเหยื่อน้ำท่วมพิจิตร บอกภาคเหนือ-กลาง ยังจมบาดาลอีกหลายวัน รับห่วงเขื่อนสิริกิติ์ น้ำมากถึง 88% แล้ว หวั่นแตก ต้องระบายลงน้ำน่าน

วันนี้ (18 ส.ค.) นายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ให้สัมภาษณ์ ที่วัดบางลายเหนือ ต.บางลาย อ.บึงนาราง จ.พิจิตร หลังลงพื้นที่ร่วมกับ นายสุวิทย์ วัชโรทยางกูร ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร และ นายชาติชาย เจียมศรีพงษ์ นายก อบจ.พิจิตร เพื่อดูสภาพน้ำท่วมในเขตลุ่มน้ำน่าน-ลุ่มน้ำยม เขตจังหวัดพิจิตร ที่พบว่า ขณะนี้น้ำท่วมแผ่ขยายเป็นวงกว้างแล้ว 8 อำเภอ พร้อมนำถุงยังชีพมามอบให้กับราษฎรที่บ้านเรือนและไร่-นาถูกน้ำท่วม

โดยระดับน้ำในแม่น้ำยมที่จุดวัดระดับน้ำ อ.สามง่าม เอ่อล้นสูงกว่าตลิ่ง 84 ซม.จุดวัดน้ำแม่น้ำยม อ.โพทะเล ระดับน้ำสูงเกินจุดวิกฤต 68 ม.และน้ำในแม่น้ำน่าน ที่สถานีวัดน้ำบ้านราชช้างขวัญ อ.เมือง จ.พิจิตร ปริมาณน้ำสูงเอ่อล้นตลิ่ง 67 ซม.ที่ อ.บางมูลนาก น้ำสูงเกินกว่าจุดวิกฤต 36 ซม.

นายธีระ บอกว่า สถานการณ์น้ำท่วมในเขตภาคเหนือและภาคกลาง ยังคงวิกฤตเช่นนี้ไปอีกหลายวัน อีกทั้งระดับน้ำทั้งแม่น้ำน่านและแม่น้ำยม ยังจะคงมีปริมาณน้ำมากขึ้น เนื่องจากยังมีพายุฝนอีกหลายลูก ซึ่งตอนนี้ได้ใช้วิธีบริหารจัดการเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล แต่ช่วงนี้ก็มีน้ำทะเลหนุนจึงทำได้ลำบาก แต่ถ้าน้ำทะเลลดลงก็จะเร่งระบายน้ำทันทีเช่นกัน ซึ่งก็จะทำให้ปริมาณน้ำในภาคกลางและภาคเหนือลดลงได้ระดับหนึ่ง

แต่สิ่งทีน่าเป็นห่วงขณะนี้ รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า เป็นห่วงเขื่อนสิริกิติ์ ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำมากถึง 88%ของความจุของเขื่อนสิริกิติ์ และรับน้ำได้อีกพันกว่าล้านลูกบาศก์เมตร ก็จะเต็มล้นเขื่อน ซึ่งถ้าไม่ระบายน้ำออกสู่แม่น้ำน่าน เขื่อนก็มีสิทธิ์แตกได้

ดังนั้น พื้นที่ลุ่มน้ำน่านอาจต้องทนรับกับสภาพน้ำท่วม ซึ่งอาจเสียหายเล็กน้อย แต่ถ้าเขื่อนสิริกิติ์แตกจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้นจึงขอให้ยอมรับความจริงกับน้ำจากแม่น้ำน่านที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และภาคกลาง รวมถึงกรุงเทพมหานครในช่วงนี้ด้วย