บุรีรัมย์ - จัดหางานบุรีรัมย์ รุดเยี่ยมพร้อมช่วยเหลือครอบครัวแรงงานไทย ชาวบุรีรัมย์ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบอิสราเอล-ปาเลสไตน์ ปะทะเดือดที่ฉนวนกาซา ขณะไปตลาดซื้อกับข้าว ล่าสุด อาการปลอดภัยแล้ว ด้านเมียเป็นห่วงวอนสามีกลับบ้าน
วันนี้ (12 มี.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.นายเที่ยง ดอกกระโทก นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจและช่วยเหลือครอบครัวของ นายมิ วงศ์สุวรรณ อายุ 43 ปี อยู่บ้านเลขที่ 178 หมู่ 3 บ.ตะโกรี ต.สำโรง อ.พลับพลาชัย จ.บุรีรัมย์ แรงงานไทยไปทำงานประเทศอิสราเอล ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากการสู้รบระหว่างกองทัพอิสราเอล และกลุ่มติดอาวุธปาเลสไตน์ ที่ฉนวนกาซา อย่างหนัก เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะแรงงานไทยเดินทางไปตลาดซื้อกับข้าว โดย นายมิ ถูกสะเก็ดระเบิดเข้าที่โหนกแก้มด้านขวา และบริเวณท้อง ล่าสุด อาการพ้นขีดอันตรายท่ามกลางความกังวลใจ และห่วงใยของครอบครัว และญาติพี่น้อง
นางจันทร์เพ็ญ วงศ์สุวรรณ อายุ 39 ปี ภรรยานายมิ กล่าวว่า ทางครอบครัวและญาติพี่น้อง เป็นห่วงสามีมาก ต้องการให้สามีกลับมาทำงานที่เมืองไทย เพราะไม่มั่นใจในเหตุการณ์เกรงจะเกิดการสู้รบขึ้นอีก แต่ล่าสุด สามีได้โทรศัพท์มาแจ้งว่า อาการปลอดภัยแล้ว ต้องการอยากขอทำงานที่ประเทศอิสราเอลต่อไป เพราะครอบครัวมีฐานะยากจน และมีหนี้สินจากการกู้ยืมเงิน เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปทำงานจำนวนหลายแสนบาท
นางจันทร์เพ็ญ กล่าวต่อว่า สามีเดินทางไปทำงานประเทศอิสราเอล เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.54 ในตำแหน่งคนงานเกษตร ที่ MOSHAV LAKISH 59 ประเทศอิสราเอล ตามสัญญา 2 ปี โดยเพิ่งส่งเงินมาให้ครอบครัวเพียง 2 ครั้งเท่านั้น ครั้งแรกเป็นเงิน 15,000 บาท และครั้งที่สอง 30,000 บาท และในครั้งที่สามนี้ ยังไม่มั่นใจว่าจะได้ส่งเงินกลับมาหรือเปล่า เพราะไม่ค่อยมีงานเก็บผลส้มในช่วงนี้ ส่วนตนได้รับงานทำวิกผม มาทำอยู่ที่บ้านได้เงินเดือนละ 3,000-4,000 บาท พร้อมกับเลี้ยงลูก 2 คนจึงอยากให้ทางราชการให้ความช่วยเหลือ
ด้าน นายเที่ยง ดอกกระโทก นักวิชาการแรงงานชำนาญการ สำนักงานจัดหางานจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า จะประสานไปยังสำนักงานแรงงานไทยในประเทศอิสราเอล ให้เข้าไปดูแลช่วยเหลือเรื่องการรักษาพยาบาล และสวัสดิการต่างๆ ที่จะได้รับ พร้อมประสานบริษัทผู้จัดส่งแรงงาน ให้ร่วมเข้าดำเนินการดูแลช่วยเหลือตามสิทธิประโยชน์ที่ควรจะได้รับ
ทั้งนี้ หากญาติมีความประสงค์จะนำกลับมารักษาที่ประเทศไทย ก็จะได้รับเงินช่วยเหลือในกรณีประสบอันตรายจนพิการหรือทุพพลภาพ ไม่ว่าเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดอันตรายจนพิการหรือทุพพลภาพจะเกิดขึ้นในต่างประเทศ หรือในประเทศไทย ทางกองทุนช่วยเหลือคนหางานไปทำงานต่างประเทศ ก็จะจ่ายเป็นเงินสงเคราะห์รายละ 30,000 บาท กรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินช่วยเหลือรายละ 40,000 บาท