ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตำรวจสัตหีบ ตามรวบ 2 โจ๋ปืนดุ หลังแค้นหนุ่มเมืองเพชร ตามจีบแฟนสาว พร้อมประกาศศักดาเด็กเจ้าถิ่นแฟนข้าใครอย่าแตะ ด้วยการควงปืนขนาด 9 มม. บุกยิงถล่มร้านค้าหวังฆ่าสาวใหญ่ผู้เป็นป้าดับแค้น กระสุนเฉียดหัว เชื่อปาฏิหาริย์เหรียญ 25 พุทธศตวรรษที่คล้องคอคุ้มภัยให้แคล้วคลาด
จากกรณีวัยรุ่นไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง 3 นัด เข้าไปภายในร้านสมควรการค้า ตั้งอยู่เลขที่ 80/21 ริมถนนสุขุมวิท ปากซอยสัตหีบสุขุมวิท 81 (จามจุรี) ตำบลสัตหีบ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมาจนเป็นเหตุให้กระสุน 1 นัด ทะลุประตูเหล็กหน้าร้านพุ่งเฉี่ยวศีรษะ นางสมควร เนื่องจำนง อายุ 58 ปี เจ้าของร้านไปอย่างหวุดหวิด โดยเจ้าตัวเชื่อว่าเกิดจากปาฏิหาริย์ของเหรียญ 25 พุทธศตวรรษที่คล้องคออยู่ ทำให้แคล้วคลาดรอดตายมาได้นั้น
ล่าสุดพ.ต.อ.สมชาย สุนทวนิค ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรสัตหีบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ประกอบ แสงพริ้ง รองผู้กำกับการ ฝ่ายปราบปราม พ.ต.ท.ดำรงค์ อ้วนสูงเนิน สารวัตรปราบปรามและชุดสืบสวนปราบปราม ได้ควบคุมตัว นายพงพัฒน์ หรือแบงค์ หนูแก้ว อายุ 18 ปี และนายวิทยา หรือน้ำปั่น ปราโมทย์ อายุ 20 ปี ซึ่งทั้ง 2 เป็นชาวสัตหีบและยังเป็นผู้ต้องหาร่วมกันก่อเหตุใช้อาวุธปืนยี่ห้อ ซีแซด ชนิดออโตเมติก ขนาด 9 มม. กระหน่ำยิงเข้าไปภายในร้านสมควรการค้า มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพ หลังถูกติดตามจับกุมตัวได้ที่บ้านพัก
จากการสอบสวนนายพงพัฒน์ หรือแบงค์ ให้การว่า ก่อนหน้าเกิดเหตุประมาณ 1 สัปดาห์นายกอล์ฟ (ขอสงวนชื่อสกุล) หลานชายผู้เสียหาย ได้มาตามจีบแฟนสาวของตนอัน และได้โทรศัพท์เข้ามาหาบ่อยครั้งขณะที่แฟนสาวอยู่กับตน จึงทำให้เกิดความไม่พอใจและหึงหวง ก่อนจะดึงโทรศัพท์จากมือแฟนสาวพูดเคลียปัญหากับ นายกอล์ฟ แต่เกิดเคลียกันไม่ลงตัวและมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง จึงขโมยปืนพ่อและขี่จักรยานยนต์ออกมาพร้อมกับนายวิทยา ที่ขันอาสาเป็นคนลงมือยิง
เมื่อถึงที่หมายได้จอดรถจักรยานยนต์ไว้ริมถนนก่อนจะเดินลงไปดูทางช่องประตู โดยพบ นางสมควร ป้าของคู่กรณีนั่งดูทีวีอยู่ จึงเดินกลับมาที่รถก่อนจะชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงเข้าไปภายในร้าน 3 นัด หวังฆ่าให้ตายเพื่อระบายแค้น แต่เหยื่อรอดมาได้
ขณะที่นางสมควร ผู้เสียหายเผยว่า หลังจากเกิดเหตุได้สร้างความหวาดผวา และต้องอยู่อย่างหวาดระแวงตลอดเวลา เพราะหวั่นคนร้ายจะย้อนรอยกลับมาอีกครั้ง โดยขอขอบคุณไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ไม่เช่นหากอาจจะสร้างปัญหา และเป็นภัยสังคมต่อไป
ด้านร.ต.อ.ธีทัต ตรุณจันทร์ พนักงานสอบสวน กล่าวว่า คดีนี้นับเป็นคดีอุกฉกรรจ์ และนับเป็นภัยสังคม ด้วยเหตุเพียงแค่ความหึงหวงของเด็กวัยรุ่น จึงไม่อาจให้ยอมความกันได้ เบื้องต้นได้ดำเนินคดีกับ 2 ผู้ต้องหา ฐานร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และมีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย
