กาญจนบุรี - อัยการเร่งสอบปากคำเด็กหญิงอายุวัย 14 ปี หลังผู้ปกครองนำเด็กเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนกล่าวหาข้าราชการระดับสูงในเมืองกาญจนบุรี กระทำอนาจารทางเพศ
ความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองได้นำเด็กหญิงอายุ 14 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทำการอนาจารทางเพศ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ.55 ที่ผ่านมา โดยความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (24 ก.พ.) พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีเด็กหญิง อายุ 14 ปี โดยใช้เวลา 1 ชม.จึงเสร็จสิ้น โดย พ.ต.อ.สมเดช ได้สั่งการให้พนักงานสอบเร่งประสานคณะกรรมการร่วมการสอบสวนคดีเด็กและสตรีและผู้เสียหายเพื่อเร่งในการสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนสอบสวนโดยเร็วที่สุด
หลังการประชุม พ.ต.อ.สมเดช เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวน ว่า กรณีคดีกระทำชำเราอนาจารเด็กอายุ 14 ปี ที่ผู้ปกครองพาบุตรสาวมาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ในวันนี้ (24 ก.พ.) ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนติดต่อผู้ปกครองให้พาเด็กไปสอบสวนต่อหน้าอัยการจังหวัดกาญจนบุรี
ส่วนเรื่องที่จะเกี่ยวกับข้าราชการนั้นก็ต้องดูตอนที่ทำการสอบสวนว่ามีผลเป็นอย่างไร คดีนี้ไม่สามารถยอมความได้ ต้องว่ากันไปอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องห่วงทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและทำงานตามขั้นตอนอยู่แล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เคยให้ผู้ปกครองพาบุตรสาวมาพบพนักงานสอบสวนแล้วครั้งหนึ่ง และพาไปสอบสวนต่อหน้าอัยการ แต่ทางผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็กยังมีสภาพจิตใจที่ไม่ดี อีกทั้งร้องไห้อยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถดำเนินการอะไรได้
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำเด็กคนดังกล่าวแล้ว คาดว่า คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อพิสูจน์ความจริงกันต่อไป และการสอบสวนเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนทั้งฝ่ายผู้เสียหาย และฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ส่วนทางด้านศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี มีรายงานข่าวว่า กรมการปกครองได้มีวิทยุด่วนที่สุดถึงจังหวัดกาญจนบุรี ให้จังหวัดกาญจนบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวว่ามีข้ราชการซี 8 ที่ทำงานที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าวจริงหรือไม่
โดย นายพิพัฒน์ ศังขะฤกษ์ ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ในส่วนของปกครองจังหวัดกาญจนบุรี หลังทราบข่าวก็จะทำรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นทราบว่ามีการแจ้งความร้องทุกข์จริง และอยู่ในระหว่างการสอบสวนพยานและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยทราบว่า ทางผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการทำการสเก็ตซ์ภาพผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นใคร
โดยการสอบสวนอยู่ในกระบวนการการสอบสวนวิธีปฏิบัติการสอบสวนคดีเด็กและเยาวชนที่ต้องดำเนินการตามระเบียบโดยต้องสอบปากคำต่อหน้าคณะกรรมการที่ประกอบด้วยอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ ทราบว่า พนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการ ซึ่งหากข้อเท็จจริงปรากฎ อย่างไรก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาต่อไป
รายงานข่าวว่า วันนี้ เวลาประมาณ 13.30 น.อัยการจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดหมายให้ผู้ปกครองและเด็กหญิงผู้เสียหาย มาให้ปากคำเพิ่มเติมที่บริเวณสำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสอบปากคำด้วย แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด ในส่วนของประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี หลังจากทราบข่าว ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะสภากาแฟต่างวิจารณ์กันเหมือนกับทราบดีว่าข้าราชการคนดังกล่าวนั้นเป็นใคร แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะฟันธง
ความคืบหน้ากรณีผู้ปกครองได้นำเด็กหญิงอายุ 14 ปี เข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกาญจนบุรี ว่า ถูกเจ้าหน้าที่ระดับสูงกระทำการอนาจารทางเพศ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ.55 ที่ผ่านมา โดยความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ (24 ก.พ.) พ.ต.อ.สมเดช ฐิตวัฒนะสกุล ผกก.สภ.เมืองกาญจนบุรี ได้เรียกประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีเด็กหญิง อายุ 14 ปี โดยใช้เวลา 1 ชม.จึงเสร็จสิ้น โดย พ.ต.อ.สมเดช ได้สั่งการให้พนักงานสอบเร่งประสานคณะกรรมการร่วมการสอบสวนคดีเด็กและสตรีและผู้เสียหายเพื่อเร่งในการสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวนสอบสวนโดยเร็วที่สุด
หลังการประชุม พ.ต.อ.สมเดช เปิดเผยความคืบหน้าการสอบสวน ว่า กรณีคดีกระทำชำเราอนาจารเด็กอายุ 14 ปี ที่ผู้ปกครองพาบุตรสาวมาแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี ในวันนี้ (24 ก.พ.) ตนได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนติดต่อผู้ปกครองให้พาเด็กไปสอบสวนต่อหน้าอัยการจังหวัดกาญจนบุรี
ส่วนเรื่องที่จะเกี่ยวกับข้าราชการนั้นก็ต้องดูตอนที่ทำการสอบสวนว่ามีผลเป็นอย่างไร คดีนี้ไม่สามารถยอมความได้ ต้องว่ากันไปอย่างตรงไปตรงมา ไม่ต้องห่วงทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายและทำงานตามขั้นตอนอยู่แล้ว ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ซึ่งก่อนหน้านั้นได้เคยให้ผู้ปกครองพาบุตรสาวมาพบพนักงานสอบสวนแล้วครั้งหนึ่ง และพาไปสอบสวนต่อหน้าอัยการ แต่ทางผู้เสียหาย ซึ่งเป็นเด็กยังมีสภาพจิตใจที่ไม่ดี อีกทั้งร้องไห้อยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่จึงไม่สามารถดำเนินการอะไรได้
แต่อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้เร่งรัดให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำเด็กคนดังกล่าวแล้ว คาดว่า คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งเพื่อพิสูจน์ความจริงกันต่อไป และการสอบสวนเจ้าหน้าที่จะทำการสอบสวนทั้งฝ่ายผู้เสียหาย และฝ่ายผู้ถูกกล่าวหา และจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย
ส่วนทางด้านศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี มีรายงานข่าวว่า กรมการปกครองได้มีวิทยุด่วนที่สุดถึงจังหวัดกาญจนบุรี ให้จังหวัดกาญจนบุรีตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับข่าวว่ามีข้ราชการซี 8 ที่ทำงานที่ศาลากลางจังหวัดกาญจนบุรี เป็นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าวจริงหรือไม่
โดย นายพิพัฒน์ ศังขะฤกษ์ ปลัดจังหวัดกาญจนบุรี เปิดเผยเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ในส่วนของปกครองจังหวัดกาญจนบุรี หลังทราบข่าวก็จะทำรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ในเบื้องต้นทราบว่ามีการแจ้งความร้องทุกข์จริง และอยู่ในระหว่างการสอบสวนพยานและรวบรวมพยานหลักฐาน โดยทราบว่า ทางผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการทำการสเก็ตซ์ภาพผู้ต้องสงสัยไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้ระบุว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นใคร
โดยการสอบสวนอยู่ในกระบวนการการสอบสวนวิธีปฏิบัติการสอบสวนคดีเด็กและเยาวชนที่ต้องดำเนินการตามระเบียบโดยต้องสอบปากคำต่อหน้าคณะกรรมการที่ประกอบด้วยอัยการ นักสังคมสงเคราะห์ ทราบว่า พนักงานสอบสวนกำลังดำเนินการ ซึ่งหากข้อเท็จจริงปรากฎ อย่างไรก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างตรงไปตรงมาต่อไป
รายงานข่าวว่า วันนี้ เวลาประมาณ 13.30 น.อัยการจังหวัดกาญจนบุรี ได้นัดหมายให้ผู้ปกครองและเด็กหญิงผู้เสียหาย มาให้ปากคำเพิ่มเติมที่บริเวณสำนักงานอัยการจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมสอบปากคำด้วย แต่ยังไม่เปิดเผยรายละเอียดแต่อย่างใด ในส่วนของประชาชนชาวจังหวัดกาญจนบุรี หลังจากทราบข่าว ต่างออกมาวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆ นานา โดยเฉพาะสภากาแฟต่างวิจารณ์กันเหมือนกับทราบดีว่าข้าราชการคนดังกล่าวนั้นเป็นใคร แต่ก็ไม่มีใครกล้าที่จะฟันธง