ตาก - พ่อเมืองตาก สั่งจ่าย 5,000 บาท ให้กับเจ้าหน้าที่ป่าไม้ พร้อม ชรบ.ที่เข้าจับชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า ที่แอบลักลอบเข้าไปเผาป่าในเขตป่าสงวนวอด ระบุ หากดับไม่ทันป่าอาจถูกเผามากกว่า 20 ไร่
รายงานข่าวจากจังหวัดตาก แจ้งว่า ขณะนี้ นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้สั่งให้จ่ายเงินสินบนนำจับจำนวน 5,000 บาท แก่เจ้าหน้าที่ป่าไม้และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ที่ได้จับกุม นายอาหน่าย อายุ 20 ปี ชาวกะเหรี่ยงสัญชาติพม่า ที่ได้บุกรุกจุดไฟเผาป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่สอด รอยต่อเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ เสียหายไปกว่า 1 ไร่ และหากไม่สามารถดับได้ทัน จะทำให้ป่าไม้บริเวณดังกล่าวเสียหายมากกว่า 20 ไร่ ซึ่งการจับกุมผู้ลักลอบจุดไฟเผาป่ารายนี้ถือเป็นรายแรก โดยจะได้มีการส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายซึ่งมีโทษจำตั้งแต่ 2 ปี จนถึง 10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท ตามฐานความผิดการเผาป่า
โดยก่อนหน้านี้ นายสมควร พรมมา หัวหน้าหน่วยป้องกันปราบปรามและรักษาป่าไม้ที่ ตก.5 ห้วยไม้แป้น อ.แม่สอด จ.ตาก ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า มีแรงงานต่างด้าวลักลอบจุดไฟเผาป่าที่บริเวณป่าสงวนแห่งชาติแม่สอด หมู่ 10 บ้านปางวัว ต.มหาวัน อ.แม่สอด จึงนำกำลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และ ชรบ.รุดไปที่เกิดเหตุพบแรงงานต่างด้าวกำลังจุดไฟเผาป่าที่เชิงเขาท้ายหมู่บ้าน จึงไล่ติดตามจับกุมและสามารถจับกุมตัวได้ระหว่างที่พยายามจะหลบหนี
ทราบชื่อคือ นายอาหน่าย อายุ 20 ปี เป็นชาวกะเหรี่ยง สัญชาติพม่า ไม่มีใบอนุญาตทำงานหรือบัตรประจำตัวใดๆ ที่แสดงตัวให้อยู่ในราชอาณาจักรได้ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวมาสอบสวน ทราบว่า นายอาหน่าย เป็นแรงงานเถื่อนไม่มีใบอนุญาตทำงาน หรือบัตรอนุญาตให้อยู่ในประเทศเป็นการชั่วคราว และกำลังจะบุกรุกเผาป่าเพื่อทำไร่สวนพริกและมะเขือเทศ โดย จนท.สอบสวนทราบอีกว่านายอาหน่ายได้เคยจุดไฟเผาป่ามาแล้วหลายครั้ง
รายงานข่าวแจ้งว่า บริเวณดังกล่าวมีการบุกรุกป่าและลักลอบเผาทำไร่จำนวนมาก ซึ่งพบว่ามีพื้นที่ป่าไม้ถูกเผาไปแล้วมากกว่า 20 ไร่ สำหรับในการบุกรุกเผาป่ารายนี้ พื้นที่ถูกเผาไปแล้วกว่า 1 ไร่ และหากไม่สามารถดับทันป่าจะถูกเผามากกว่า 20 ไร่ ในพื้นที่ใก้ลเคียงระหว่างป่าสงวนแห่งชาติแม่สอดกับอุทยานแห่งชาติน้ำตกพาเจริญ
สำหรับบริเวณด้านหลังหมู่บ้านปางวัว เป็นหมู่บ้านสีแดง เป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มนายทุนชาวไทยภูเขาเผ่าม้ง และมีอาวุธ สำหรับการบุกรุกป่าและลักลอบเผาทำไร่จำนวนมาก พบว่า มีพื้นที่ป่าไม้บริเวณใก้ลเคียง ถูกเผาไปแล้วนับ 100 ไร่ ส่วนแรงจูงใจในการเผาป่าเพื่อปลูกพืชเลื่อนลอย และเพื่อจับสัตว์ป่า เช่น ไก่ป่า หมู่ป่า และอีเห็น ส่วนสัตว์ใหญ่ เช่น กวาง และอื่นๆหมดจากป่านี้ไปนานแล้ว