ศูนย์ข่าวศรีราชา - ว่าที่นายกสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยโครงการพัทยาโมเดลมีความคืบหน้าไปมาก ชี้ขณะนี้อยู่ในช่วงการร่างกฎหมายพื้นที่โซนนิ่งเมืองท่องเที่ยว เชื่อจะเป็นต้นแบบของเมืองท่องเที่ยวที่จะมีความเป็นรูปธรรมชัดเจนภายในปีนี้
นายบัณฑิต ศิริตันหยง ว่าที่นายกสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิงและธุรกิจการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยความคืบหน้าของโครงการพัทยาโมเดลซึ่งเป็นแม่แบบของเมืองท่องเที่ยว ตามที่ได้มีการผลักดันมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ในเมืองท่องเที่ยวให้เป็นระบบระเบียบว่า ขณะนี้โครงการดังกล่าวมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการร่างกฎหมายพื้นที่โซนนิ่งของเมืองท่องเที่ยว โดยที่ผ่านมาได้ระดมแนวคิดการจัดทำร่างกฎหมายดังกล่าวจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข กรมสรรพากร และสื่อมวลชนมาโดยตลอด
ซึ่งหลังจากผ่านขั้นตอนดังกล่าวจะเป็นการพิจารณาหาความเหมาะสมเพื่อปรับให้โครงการดังกล่าวมีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม ซึ่งจะมองถึงส่วนได้ ส่วนเสียที่อาจจะเกิดขึ้น โดยในส่วนของข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องก็อาจมีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อสอดรับกับธรรมชาติความเป็นจริงในสังคมปัจจุบัน ซึ่งจะให้ความสำคัญของภาพรวมด้านการท่องเที่ยวดูเป็นระบบระเบียบมากยิ่งขึ้น และหากพัทยาโมเดลเกิดความเป็นรูปธรรม เชื่อว่าจะเป็นโมเดลนำร่องให้เมืองท่องเที่ยวๆ ต่างๆ ในประเทศไทยต่อไปได้เช่นกัน
นายบัณฑิต กล่าวต่อว่า อีกประมาณ 2 เดือนข้างหน้า จะมีการนำเสนอข้อมูลของพัทยาโมเดลให้กับภาคประชาชนทำความเข้าใจถึงที่มาที่ไปและเนื้อหาสาระที่เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งหากความเป็นรูปธรรมเกิดขึ้นแล้วสิ่งที่จะตามมาคือ ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคมเมืองท่องเที่ยว ความชัดเจนในการทำธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ซึ่งจะทำให้รายได้และเศรษฐกิจในเมืองท่องเที่ยวดีขึ้นตาม วัฏจักร ของห่วงโซ่เศรษฐกิจ อันจะส่งผลต่อภาพลักษณ์เมืองท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงปัญหาปัญหาอาชญากรรมก็จะลดลงไปตามธรรมชาติของการจัดการระบบเมืองท่องเที่ยวที่กล่าวมาแล้วข้างต้น
ทั้งนี้ เชื่อว่าพัทยาโมเดลจะเป็นรูปธรรมชัดเจนและเกิดขึ้นภายในปีนี้ ที่สำคัญพัทยาโมเดลจะเป็นโมเดลต้นแบบที่เน้นการทำรายได้จากเม็ดเงินชาวต่างชาติเป็นหลัก และเป็นการสร้างมาตรฐานให้กลุ่มผู้ประกอบการสถานบันเทิงให้ยกระดับตัวเองขึ้น เพราะถ้าหากมีการแบ่งพื้นที่โซนนิ่งอย่างชัดเจนแล้ว ผู้ประกอบการก็ต้องยกมาตรฐานของธุรกิจของตนเองให้สอดรับกับแผนการดำเนินการภายใต้ข้อบัญญัติของพัทยาโมเดลด้วย ตรงจุดนี้จะสามารถกำจัดกลุ่มธุรกิจที่ไม่มีความจริงใจออกไปได้และจะเหลือเพียงมืออาชีพในการทำธุรกิจสถานบันเทิงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม หากพัทยาโมเดลมีผลบังคับใช้และมีการแบ่งพื้นที่โซนนิ่งเรียบร้อยแล้ว จะมีการนิรโทษกรรมโซนนิ่งใน 3 ปี เพื่อให้เจ้าของธุรกิจในพื้นที่ต่างๆ ปรับตัวเองให้เข้ากับข้อบัญญัติ และหากไม่สามารถปรับตัวเองได้ก็จำเป็นต้องยกเลิกกิจการหรืออาจเปลี่ยนพื้นที่โซนนิ่งเพื่อประกอบการใหม่ตามศักยภาพของธุรกิจนั้นๆ ต่อไปด้วย ซึ่งพื้นที่โซนนิ่งแต่ละโซนก็จะแตกต่างไปในเรื่องของรายละเอียดระบบสถาปัตยกรรม รายละเอียดโครงสร้างและการจัดระบบความปลอดภัยภายในสถานบันเทิง ซึ่งเป็นการคัดกรองสถานประกอบการให้ได้มาตรฐานตามไปด้วยเช่นกัน
“ต่อไปผับเธคที่ตรวจพบว่าไม่การกระทำความผิดทั้งเรื่องยาเสพติด อาวุธปืน รวมไปถึงการควบคุมเยาวชนไม่ให้เข้าไปใช้บริการ เมืองพัทยาก็จะพิจารณาให้สถานบันเทิงให้ยกระดับเป็นสถานบันเทิง 5 ดาว แต่หากพบมีการกระทำความผิดก็จะพิจารณาลดดาวเพื่อความชัดเจนในมาตรฐานสถานประกอบการ กลุ่มนักท่องเที่ยวก็สามารถเลือกใช้บริการได้อย่างเต็มที่ จะเป็นเรื่องของสังคมที่จะบีบให้กลุ่มผู้ประกอบการหัวหมอกลับมาเอาใจใส่และจริงใจในการดำเนินธุรกิจที่ถูกต้องและไปตามกระบวนการหลักการ รูปแบบ รวมไปถึงวิธีการจัดการการให้บริการของสถานบันเทิงของตัวเองให้สอดรับกับสังคมเมืองพัทยาเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย” นายบัณฑิต ระบุ