xs
xsm
sm
md
lg

กาฬสินธุ์จับล็อตใหญ่ไม้พะยูง 70 ท่อน กว่า 20 ล้าน เย้ยขอเคลียร์ จนท.2 ล้าน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และนายสมเกียรติ  ดวงมณี นายอำเภอห้วยผึ้ง พ.ต.อ.วิบูลย์  คำสิงห์ ผกก.สภ.ห้วยผึ้ง เข้าตรวจสอบไม้พะยูงหลังเจ้าหน้าสามารถจับกุมได้จำนวน 70 ท่อน รถยนต์ 3 คัน และผู้ต้องหา 5 คน ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอห้วยผึ้ง
กาฬสินธุ์ -ตำรวจกาฬสินธุ์รวบขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงได้ล็อตใหญ่ มากถึง 70 ท่อนมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท พร้อมผู้ต้องหา 5 คน ขณะทำการขนย้ายไม้จากจังหวัดมุกดาหาร เพื่อจะส่งผ่านเข้าจังหวัดหนองคาย ก่อนนำไม้พะยูงส่งออกนอกประเทศ ซึ่งผู้ต้องหายังพยายามที่จะติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจมากถึง 2 ล้านบาท

เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (29 ก.พ.) ที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอห้วยผึ้ง นายสมศักดิ์ สุวรรณสุจริต ผวจ.กาฬสินธุ์ พล.ต.ต.คณิสร น้อยนารถ ผบก.ภ.จว.กาฬสินธุ์ และนายสมเกียรติ ดวงมณี นายอำเภอห้วยผึ้ง พ.ต.อ.วิบูลย์ คำสิงห์ ผกก.สภ.ห้วยผึ้งเข้าตรวจสอบไม้พะยูงจำนวนมาก เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจอำเภอห้วยผึ้ง สามารถจับกุม ขบวนการลักลอบขนไม้พะยูงได้ตรงถนนสาย อำเภอนาคูไปอำเภอห้วยผึ้ง

ทั้งนี้ การจับกุมเกิดจากสายข่าวระบุว่าจะมีการลักลอบขนไม้พะยูงจากจังหวัดมุกดาหารเพื่อนำส่งไปยังจังหวัดหนองคาย ซึ่งตำรวจได้พบรถกระบะยี่ห้อโตโยต้า 3 คัน กำลังทำการขนไม้ผ่านบ้านค่ายบุรี หมู่ที่ 6 ตำบลไค้นุ่น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาในที่เกิดเหตุได้ 4 คน

ประกอบด้วย 1.นายลา ผลประเสริฐ อายุ 37 ปี 2.นายอนุชา ผลบุญ อายุ 19 ปี 3.บุญน้ำ ดิถีกุล อายุ 49 ปี และ 4.นายหัส ทองแดง อายุ 31 ปี ซึ่งทั้งหมดเป็นชาวจังหวัดหนองคาย

นอกจากนี้ ระหว่างทำการจับกุม นางไพอนงค์ สุวรรณวงษ์ ชาวจังหวัดหนองคาย ได้เข้าติดต่อกับตำรวจเพื่อติดสินบนในการเอาไม้คืนเป็นเงิน 2 ล้านบาทเจ้าหน้าที่จึงวางแผนและจับกุมได้ในที่สุด ทั้งนี้ตำรวจได้ยึดของกลางรถยนต์ 3 คัน ไม้พะยูงจำนวน 70 ท่อนมูลค่ากว่า 20 ล้านบาท เงินสดกว่า สองแสนบาทและโทรศัพท์มือถือ 5 เครื่องส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีในข้อหามีไม้หวงห้ามไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และติดสินบนเจ้าพนักงาน

การจับกุมครั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ ระบุว่า ผลจากการปราบปรามจับกุมในกลุ่มผู้ลักลอบตัดไม้พะยูงในพื้นที่ ทำให้เครือข่ายตัดไม้ได้พุ่งเป้าไปยังพื้นที่ป่าข้างเคียงในหลายจังหวัดซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาภูพาน ในด้านการป้องกันในพื้นที่จะยังคงความเข้มข้นให้ตำรวจและฝ่ายป้องกันร่วมมือกันสอดส่องดูแล แต่เนื่องจากราคาไม้พะยูงมีราคาสูงอีกทั้งพื้นที่ป่า ภูพาน มีไม้พะยูงหลงเหลือแห่งเดียวในประเทศไทย จึงต้องการให้ประชาชนได้ร่วมกันสอดส่องดูแล

สำหรับการจับกุมไม้พะยูงครั้งนี้ เป็นการจับกุมไม้พะยูง ที่นับว่ามากที่สุดในรอบปีทั้งนี้ในปีที่ผ่านมาจังหวัดกาฬสินธุ์ สามารถจับกุมเครือข่ายไม้พะยูงได้มากกว่า 20 ราย คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท
ผู้ต้องหาที่จับกุมได้
กำลังโหลดความคิดเห็น