xs
xsm
sm
md
lg

DSI ร่วมกับ ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ตรวจยึดสินค้าอันตราย ในท่าเรือ C3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ศูนย์ข่าวศรีราชา - ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับ DSI ตรวจยึดสินค้าอันตราย ในท่าเรือ C3 ขณะเตรียมส่งไปต่างประเทศ

วันนี้ (29 ก.พ.) ที่ท่าเรือ C3 ท่าเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี นายไพศาล ชื่นจิตร ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง พร้อม นายประวิทย์ ไชยบัวแดง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออก (DSI) และนายอรรณพ กลิ่นทอง อุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมสินค้าอันตราย

นายไพศาล กล่าวว่า ตามนโยบายในการป้องกันและปราบปรามเพื่อปกป้องสังคมจากสินค้าอันตรายและของเสียอันตรายต่างๆ ตลอดมา ซึ่งศูนย์ป้องกันและปราบปรามของศุลกากรภาคตะวันออก ได้อายัดสินค้าตามใบขนสินค้าขาออกของบริษัท หัวหยังทง อินเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งสำแดงชนิดสินค้าเป็นตะกรันปนดินทรายที่จะส่งไปยังประเทศจีน โดยประสานอุตสาหกรรมจังหวัดชลบุรี ร่วมกันชักตัวอย่างเพื่อส่งวิเคราะห์ ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าเป็นของเสียประเภทโลหะและที่มีโลหะเป็นองค์ประกอบ จึงสั่งอายัดตู้สินค้าทั้งหมดจำนวน 22 ตู้น้ำหนักทั้งสิ้น 428,000,000 กก.ราคาประมาณกว่า 1 ล้านบาท

นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ศุลกากรยังสามารถตรวจยึดสินค้าประเภทเดียวกันของบริษัท เกล็ดนาค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ได้อีกจำนวน 6 ตู้

นายไพศาล กล่าวต่อว่า สำหรับสินค้าจำนวน 28 ตู้คอนเทนเนอร์นั้น เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีในความผิดฐานสำแดง ชนิดรายละเอียดของสินค้าเป็นเท็จ นำสินค้าต้องกำกัดออกนอกราชอาณาจักร อันเป็นความผิดตามมาตรา 99,27 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2469 ประกอบมาตรา16,17 แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2482 และความผิดตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องบัญชีชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ.2538 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม โดยผู้ใดมีไว้ครอบครอง ซึ่งวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากเจ้าพนักงานเจ้าหน้าที่ หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2 แสนบาท หรือทั้งจำ

นายประวิทย์ ไชยบัวแดง หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษ ภาคตะวันออก (DSI) กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ได้เฝ้าติดตาม จนทราบว่าจะมีการนำสินค้าอันตรายส่งไปยังประเทศที่ 3 โดยผ่านท่าเรือแหลมฉบัง จึงประสานเจ้าหน้าที่ศุลกากรท่าเรือแหลมฉบังและอุตสาหกรรมจังหวัด เพื่อทำการตรวจสอบและอายัดสินค้าดังกล่าว เพราะหากส่งสินค้าอันตรายไปยังประเทศที่ 3 ประเทศไทยอาจจะเสียชื่อในเรื่องนี้ เพราะเป็นสินค้าที่ไม่มีใครต้องการ

ที่ผ่านมา สินค้าอันตรายดังกล่าวได้ถูกส่งออกไปยังต่างประเทศแล้วเป็นจำนวนมาก และยังมีอีกเป็นจำนวนมากที่กำลังจะถูกส่งไปยังต่างประเทศ ดังนั้น ทุกหน่วยงานควรจะต้องร่วมมือกันตรวจสอบดูแล เพื่อไม่ให้สินค้าดังกล่าวหลุดรอดไปยังต่างประเทศ และไม่ให้กระจัดการจ่ายไปยังแหล่งอื่นๆที่จะสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากสินค้าอันตราย (ฝุ่นผงเหล็ก) เนื่องจากมีแร่สังกะสีและตะกั่ว เป็นจำนวนมาก ซึ่งเข้าสู่ร่างกาย จะป่วยเป็นโรคมะเร็ง





กำลังโหลดความคิดเห็น