มหาสารคาม - อากาศเปลี่ยนแปลงส่งผลให้โรคตาแดงระบาด เตือนให้ประชาชนระวัง หลังตัวเลขผู้ป่วยเข้ารักษาโรงพยาบาลมหาสารคามจำนวนมาก แนะล้างมือให้สะอาดและเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง
แพทย์หญิงเพียงใจ ลวกุล หัวหน้ากลุ่มงานจักษุวิทยาโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า ในช่วงเดือนมกราคมมีผู้ป่วยจากอาการโรคตาแดงมารักษาเพิ่มขึ้นมาก หลังจากที่เดือนมกราคม มีผู้ป่วยรักษาจำนวน 84 ราย ในเดือนกุมภาพันธ์มีผู้ป่วยมารักษาอยู่ที่ 180 ราย มากกว่าเดือนที่ผ่านมากว่า 100 ราย เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงที่ผ่านมามีสภาพอากาศที่แปรปรวน อากาศร้อน สลับกับมีฝนตก บางพื้นที่มีลมกระโชกแรง ส่งผลให้มีเชื้อโรคที่แฝงมากับอากาศเพิ่มมากขึ้น ทำให้ประชาชนสามารถติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
โรงพยาบาลมหาสารคามจึงฝากเตือนประชาชนให้ระวังเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับน้ำ ซึ่งเสี่ยงที่จะป่วยด้วยอาการเยื่อบุตาอักเสบ หรือโรคตาแดง โดยปกติผู้ที่ป่วยด้วยโรคตาแดงอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากยังมีอาการเคืองตาเหมือนมีทรายเข้าตา ตามัว อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนคือตาดำอักเสบ ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด และให้การรักษาที่เหมาะสม ที่สำคัญอย่าซื้อยามาหยอดตาเอง
โดยเฉพาะยาหยอดตาที่ไม่รู้แหล่งที่มาหรือแหล่งผลิต หรือที่วางขายตามตลาดนัด รวมทั้งไม่ควรทำตามความเชื่อผิดๆ เช่น ใช้น้ำนมหยอดตา เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อถึงขั้นตาบอดได้
สำหรับสาเหตุของโรคตาแดงส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ติดต่อกันทางการสัมผัสน้ำตา ขี้ตาของผู้ป่วย อาการสำคัญคือ ตาแดง อาจมีเลือดออกที่เยื่อบุตาขาว ตาขาวบวม มีขี้ตาเป็นเมือกใสหรือเหลืองอ่อน น้ำตาไหล เคืองตา และอาจเจ็บบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่ข้างหู อาการจะลุกลามจากตาข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 วัน บางรายอาจมีตาดำอักเสบ ทำให้เคืองตามาก และมีแผลที่ตาดำชั่วคราวได้
โรงพยาบาลมหาสารคาม จึงขอแนะนำการป้องกันที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หลีกเลี่ยงการใช้มือแคะ แกะ เกาหน้า ตา สำหรับผู้ที่กำลังป่วยแนะนำให้หยุดเรียนหรือหยุดงานอย่างน้อย 3 วัน ห้ามใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน
แพทย์หญิงเพียงใจ ลวกุล หัวหน้ากลุ่มงานจักษุวิทยาโรงพยาบาลมหาสารคาม กล่าวว่า ในช่วงเดือนมกราคมมีผู้ป่วยจากอาการโรคตาแดงมารักษาเพิ่มขึ้นมาก หลังจากที่เดือนมกราคม มีผู้ป่วยรักษาจำนวน 84 ราย ในเดือนกุมภาพันธ์มีผู้ป่วยมารักษาอยู่ที่ 180 ราย มากกว่าเดือนที่ผ่านมากว่า 100 ราย เนื่องจากสภาพอากาศในช่วงที่ผ่านมามีสภาพอากาศที่แปรปรวน อากาศร้อน สลับกับมีฝนตก บางพื้นที่มีลมกระโชกแรง ส่งผลให้มีเชื้อโรคที่แฝงมากับอากาศเพิ่มมากขึ้น ทำให้ประชาชนสามารถติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
โรงพยาบาลมหาสารคามจึงฝากเตือนประชาชนให้ระวังเชื้อโรคที่ปนเปื้อนมากับน้ำ ซึ่งเสี่ยงที่จะป่วยด้วยอาการเยื่อบุตาอักเสบ หรือโรคตาแดง โดยปกติผู้ที่ป่วยด้วยโรคตาแดงอาการจะค่อยๆ ดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากยังมีอาการเคืองตาเหมือนมีทรายเข้าตา ตามัว อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนคือตาดำอักเสบ ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด และให้การรักษาที่เหมาะสม ที่สำคัญอย่าซื้อยามาหยอดตาเอง
โดยเฉพาะยาหยอดตาที่ไม่รู้แหล่งที่มาหรือแหล่งผลิต หรือที่วางขายตามตลาดนัด รวมทั้งไม่ควรทำตามความเชื่อผิดๆ เช่น ใช้น้ำนมหยอดตา เพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อถึงขั้นตาบอดได้
สำหรับสาเหตุของโรคตาแดงส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัส ติดต่อกันทางการสัมผัสน้ำตา ขี้ตาของผู้ป่วย อาการสำคัญคือ ตาแดง อาจมีเลือดออกที่เยื่อบุตาขาว ตาขาวบวม มีขี้ตาเป็นเมือกใสหรือเหลืองอ่อน น้ำตาไหล เคืองตา และอาจเจ็บบริเวณต่อมน้ำเหลืองที่ข้างหู อาการจะลุกลามจากตาข้างหนึ่งไปอีกข้างหนึ่งอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 วัน บางรายอาจมีตาดำอักเสบ ทำให้เคืองตามาก และมีแผลที่ตาดำชั่วคราวได้
โรงพยาบาลมหาสารคาม จึงขอแนะนำการป้องกันที่สามารถทำได้ง่ายๆ โดยการล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หลีกเลี่ยงการใช้มือแคะ แกะ เกาหน้า ตา สำหรับผู้ที่กำลังป่วยแนะนำให้หยุดเรียนหรือหยุดงานอย่างน้อย 3 วัน ห้ามใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น เสื้อผ้า ผ้าเช็ดตัว แว่นตา ผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน