กาญจนบุรี - ด่วน!! เกิดเหตุไฟไหม้ร้านค้างานประจำปีภายใน "วัดหลวงพ่ออุตตมะ" สังขละบุรี ชาวบ้านช่วยกันสกัดกันจ้าละหวั่น เบื้องต้นเพลิงได้เผาร้านค้าไปแล้วทั้งหมด 50 ร้าน วอดเหลือแต่ตอดำตะโก ตำรวจคาดไฟฟ้าลัดวงจร
เมื่อเวลา 20.15 น.วันนี้ (28 ก.พ.55) ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ บุญเนตร พนักงานสอบสวน สบ.1 ร้อยเวร สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่ในวัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยเหตุเกิดที่บริเวณร้านขายเครื่องไม้และของฝากจากประเทศพม่า ตั้งอยู่ด้านซ้ายของเจดีย์พุทธคยา วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งมีร้านค้าอยู่เป็นจำนวนมาก
หลังจากรับแจ้งเหตุ จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อจากนั้น พ.ต.อ.จิตร วิจิตรจินดา ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.ศีกดอฺชัย ชวนชม รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.สมชาย โตเฟื่อง สว.สสฯ และ ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ รีบออกเดินทางไปที่เกิดเหตุพบนายพุทธชาย หลวงวิเศษ กำนันตำบลหนองลู และนายภูวดล รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายก อบต.หนองลู และนายมานพ เกิดแดง ปลัดเทศบาลตำบลวังกะ ที่นำชาวบ้านช่วยกันตักน้ำใส่ภาชนะที่หาได้ในวัดสาดน้ำเพื่อช่วยดับไฟ อย่างจ้าละหวั่น
หลังจากนั้น 10 นาทีรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลวังกะจำนวน 4 คันเดินทางที่เกิดเหตุแต่ไม่สามารถดับเพลิงได้ เพราะลมพัดกรรโชกแรงมาก จึงทำให้เพลิงลุกไหม้นานกว่า 40 นาที ผลทำให้เพลิงเผาร้านค้าทั้ง 50 ร้านวอดเหลือแต่ตอดำตะโก
โดยขณะนี้กำลังเกิดการชุลมุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากการไฟฟ้าได้หยุดจ่ายกระแสไฟอย่างกะทันหัน อีกทั้งภายในบริเวณวัดกำลังจัดงานประจำปีจึงมีร้านค้าและนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ยากต่อการเข้าไปดับเพลิง
พ.ต.อ.จิตร วิจิตรจินดา ผกก.สภ.สังขละบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเพราะมีการใช้ไฟจำนวนมากในการจัดงาน และค่าเสียหายน่าจะมีมูลค่ามากพอสมควร ต้องสำรวจที่เกิดเหตุก่อนจะสามารถประเมินได้ แต่น่ายินดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในครั้งนี้
นายชิษณุพงษ์ เกิดขุมทอง ปลัดอาวุโสอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า จุดไฟไหม้เกิดจากร้านค้าที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังเจดีย์พุทธคยา ซึ่งมีสภาพเก่า ก่อนลุกลามไหม้ร้านค้าที่อยู่ติดกันรวมทั้งหมด 50 ล็อก มีเนื้อที่ยาวติดต่อกันประมาณ 100 เมตร สำหรับสินค้าที่ถูกไฟไหม้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำพวกเพชร-พลอย เฟอร์นิเจอร์ไม้ และของมีค่าอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่าค่าเสียหายประมาณ 100 ล้านบาทส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป
เมื่อเวลา 20.15 น.วันนี้ (28 ก.พ.55) ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ บุญเนตร พนักงานสอบสวน สบ.1 ร้อยเวร สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ที่ในวัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดหลวงพ่ออุตตมะ หมู่ 2 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยเหตุเกิดที่บริเวณร้านขายเครื่องไม้และของฝากจากประเทศพม่า ตั้งอยู่ด้านซ้ายของเจดีย์พุทธคยา วัดวังก์วิเวการาม ซึ่งมีร้านค้าอยู่เป็นจำนวนมาก
หลังจากรับแจ้งเหตุ จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อจากนั้น พ.ต.อ.จิตร วิจิตรจินดา ผกก.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.ศีกดอฺชัย ชวนชม รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.สมชาย โตเฟื่อง สว.สสฯ และ ร.ต.อ.สุรสิทธิ์ รีบออกเดินทางไปที่เกิดเหตุพบนายพุทธชาย หลวงวิเศษ กำนันตำบลหนองลู และนายภูวดล รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ นายก อบต.หนองลู และนายมานพ เกิดแดง ปลัดเทศบาลตำบลวังกะ ที่นำชาวบ้านช่วยกันตักน้ำใส่ภาชนะที่หาได้ในวัดสาดน้ำเพื่อช่วยดับไฟ อย่างจ้าละหวั่น
หลังจากนั้น 10 นาทีรถดับเพลิงจากเทศบาลตำบลวังกะจำนวน 4 คันเดินทางที่เกิดเหตุแต่ไม่สามารถดับเพลิงได้ เพราะลมพัดกรรโชกแรงมาก จึงทำให้เพลิงลุกไหม้นานกว่า 40 นาที ผลทำให้เพลิงเผาร้านค้าทั้ง 50 ร้านวอดเหลือแต่ตอดำตะโก
โดยขณะนี้กำลังเกิดการชุลมุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากการไฟฟ้าได้หยุดจ่ายกระแสไฟอย่างกะทันหัน อีกทั้งภายในบริเวณวัดกำลังจัดงานประจำปีจึงมีร้านค้าและนักท่องเที่ยวอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้ยากต่อการเข้าไปดับเพลิง
พ.ต.อ.จิตร วิจิตรจินดา ผกก.สภ.สังขละบุรี เปิดเผยว่า สาเหตุเบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจรเพราะมีการใช้ไฟจำนวนมากในการจัดงาน และค่าเสียหายน่าจะมีมูลค่ามากพอสมควร ต้องสำรวจที่เกิดเหตุก่อนจะสามารถประเมินได้ แต่น่ายินดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตในครั้งนี้
นายชิษณุพงษ์ เกิดขุมทอง ปลัดอาวุโสอำเภอสังขละบุรี เปิดเผยว่า จุดไฟไหม้เกิดจากร้านค้าที่ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังเจดีย์พุทธคยา ซึ่งมีสภาพเก่า ก่อนลุกลามไหม้ร้านค้าที่อยู่ติดกันรวมทั้งหมด 50 ล็อก มีเนื้อที่ยาวติดต่อกันประมาณ 100 เมตร สำหรับสินค้าที่ถูกไฟไหม้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าจำพวกเพชร-พลอย เฟอร์นิเจอร์ไม้ และของมีค่าอื่นๆอีกเป็นจำนวนมาก เบื้องต้นคาดว่าค่าเสียหายประมาณ 100 ล้านบาทส่วนสาเหตุการเกิดไฟไหม้ เบื้องต้นคาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร แต่อย่างไรก็ตามอยู่ระหว่างการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญ
อย่างไรก็ตาม สำหรับความคืบหน้าผู้สื่อข่าวจะรายงานให้ทราบต่อไป