ตาก - ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมตาก ชี้ ไร่อ้อยนับหมื่นไร่ในแม่สอด-การเผาป่าฝั่งพม่า ทำหมอกควันทะลัก ทหาร-หน่วยควบคุมไฟป่า-อปท.บูรณาการกำลังร่วมดับไฟป่า
นายปัญญารัตน์ รังศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจังหวัดตาก กล่าวว่า สถานการณ์ไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ ตอนนี้เริ่มคลี่คลายขึ้นบ้างแล้ว ท้องฟ้าเริ่มเปิด โดยเฉพาะที่ อ.แม่สอด ที่พื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมา ความกดอากาศสูงจากจีนแผ่ปกคลุมเข้ามา ทำให้หมอกควันและอากาศไม่สามารถเคลื่อนตัวได้
สำหรับสาเหตุปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้น ก็เนื่องมาจากการเผาในทั้งในประเทศเพื่อนบ้านและในพื้นที่ อ.แม่สอด เอง
“หลังจากที่มีโรงงานเอทานอลมาตั้ง ประชาชนในแม่สอดก็ปลูกอ้อยกันมากเกือบหมื่นไร่ ซึ่งชาวไร่อ้อยต่างก็เผาตอนอ้อยแตกกอช่วงที่ 2 และมีการเผาเพื่อทำลายวัตถุเหลือใช้จากการเกษตร ทางเราก็พยายามจะให้นำเศษซากที่เหลือมาทำปุ๋ยหมักแทน แต่ก็ยอมรับว่าเศษที่เหลือมีจำนวนมาก ต้องใช้กำลังคนมหาศาลถึงจะทำได้ และเพื่อนบ้านเราเองก็ใช้วิธีการเผาเช่นเดียวกัน” นายปัญญารัตน์ กล่าว
ด้านหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 แม่สอด จ.ตาก ร่วมกับสถานีควบคุมไฟป่าแม่สอด อ.แม่สอด และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) บูรณาการร่วมกันในการเข้าไปช่วยกันดับไฟป่าบริเวณเส้นทางสาย แม่สอด-ตาก ซึ่งเป็นจุดที่มีไฟป่าลุกไหม้มากแห่งหนึ่งและไหม้เป็นบริเวณกว้าง ทำให้เกิดสภาพหมอกควันในพื้นที่ อ.แม่สอด และอำเภอใกล้เคียง โดยได้ใช้อุปกรณ์ดับไฟป่าส่วนหนึ่ง ร่วมนำรถฉีดน้ำเพื่อดับไฟป่า แต่บางจุดเจ้าหน้าที่ก็ไม่สามารถเข้าถึง เพราะอยู่กลางป่าลึก จะใช้เครื่องบินเฮลิคอปเตอร์สนับสนุนก็ไม่ได้ เพราะทัศนวิสัยเลวร้าย
นายอุดมศักดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่สอด กล่าวว่า อ.แม่สอด ในขณะนี้มีปัญหาหมอกควัน ทำให้ทัศนวิสัยเลวร้าย และเกิดหมอกควันปกคลุมไปทั่ว และในปีนี้ถือว่ารุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ป่าถูกไฟไหม้ไปแล้วราว 500 ไร่ แต่เจ้าหน้าที่ได้ประสานฝ่ายทหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้าไปช่วยเหลือในการดับไฟป่าด้วย