ตาก - เปิดเวทีประชุมสุดยอดผู้นำท่องเที่ยว 17 จังหวัดภาคเหนือ พร้อมดึงผู้แทน-ผู้ประกอบการตามแนวระเบียงเศรษฐกิจ EWEC เตรียมพร้อมรองรับประตูสู่ AEC ที่ “นครแม่สอด”
วันนี้ (24 ก.พ.) นายสุริยะ ประสาทบัณฑิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก ได้เป็นประธานเปิดการประชุมสุดยอดผู้นำท่องเที่ยว 17 จังหวัดภาคเหนือเปิดฟ้านครแม่สอด สู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) บนระเบียงถนนสายเศรษฐกิจอิสเวตส์อิโคโนมิคคอริดอร์ (EWEC) ที่โรงแรมเซ็นทารา แม่สอดฮิลล์รีสอร์ท อ.แม่สอด จ.ตาก ภายใต้ความร่วมมือเป็นความร่วมมือระหว่าง ไทย-พม่า-ลาว-เวียดนาม โดยการนำเสนอของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดตาก-สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดตาก-สมาคมสหพันธ์ท่องเที่ยวภาคเหนือ จังหวัดตาก-สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตาก
ซึ่งในการประชุมครั้งนี้ นอกจากจะมีผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัดภาคเหนือเข้าร่วมแล้ว ยังมีผู้แทน-นักธุรกิจจากกลุ่มประเทศตามระเบียงเศรษฐกิจ EWEC เช่น นายเหงียนคุนหยุง รองผู้ว่าราชการเมืองกวางติน ประเทศเวียดนาม-ผู้แทนจากจังหวัดเมียวดีพม่า-ผู้แทนจากจังหวัดสะหวันเขต ประเทศลาว รวมกว่า 100 คนเข้าร่วมประชุม
นายสุริยะ กล่าวว่า สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน (Association of Southeast Asian Nations - ASEAN) ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2510 เพื่อเร่งรัดความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรมในภูมิภาค และจะเกิดเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) เต็มรูปแบบในปี 2558 นี้ เพื่อนำอาเซียนไปสู่การตลาดและฐานการผลิตร่วมกับ (Single Market and Production Base) ซึ่งจะส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายอย่างเสรี 5 สาขา ได้แก่ สินค้า บริการ การลงทุน แรงงานฝีมือ และเงินทุน
และผลการจัดตั้ง AEC ที่จะขึ้นในอนาคตอันใกล้จะส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจของประเทศในทุกด้าน ทั้งการค้า การบริการ การเคลื่อนย้ายเงินทุนและแรงงาน โดยเฉพาะการเปิดเสรีทางด้านบริการ จะส่งผลต่อการแข่งขันในภาคบริการรุนแรงขึ้น และการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมืออย่างเสรี จะทำให้เกิดการแข่งขันในตลาดแรงงานอย่างเข้มข้น ซึ่งบุคลากรในวิชาชีพต่างๆ ของไทยจำเป็นต้องการมีเร่งการพัฒนาทักษะ เพื่อรับมือกับการแข่งขันดังกล่าว โดยเฉพาะความสามารถด้านภาษาต่างประเทศ ที่แรงงานของไทยยังเสียเปรียบคู่แข่งขัน จากประเทศสมาชิกอื่นๆ รวมทั้งการปรับตัวให้เข้ากับมาตรฐานสากล
“รวมถึงการเคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรีอาจส่งผลต่อความผันผวนของค่าเงินมากขึ้น ผู้ประกอบการจำเป็นต้องมีการปรับตัวในการบริหารต้นทุนและปิดความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนให้ดี” ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก กล่าว
นายสุริยะ กล่าวเพิ่มเติมว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวย่อมมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวในภูมิภาคภาคเหนืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้ากับการแข่งขันด้านการบริการ โดยเฉพาะสาขาท่องเที่ยว แม้ว่าจะมีจุดแข็งหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นทำเลที่ตั้ง ความหลากหลายของแหล่งท่องเที่ยว ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี การให้บริการที่เป็นมิตรของคนไทยก็ตาม แต่ก็ยังมีจุดอ่อน เช่น ความรู้ความสามารถของแรงงานมีฝีมือ รวมไปถึงในเรื่องความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจต่างๆ
และที่สำคัญ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาผู้เกี่ยวข้องทางการท่องเที่ยว ยังมีความรู้ความเข้าใจ และการเตรียมความพร้อมรองรับเขตการค้าเสรีอาเซียน และประชาคมเศรษฐกิจ ไม่เพียงพอ จึงต้องเร่งปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ นายเทอดเกียรติ ชินสรนันท์ นายกเทศมนตรีนครแม่สอด ที่กล่าวรายงานว่า โครงการนี้เป็นการเปิดฟ้า “นครแม่สอด” ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจประตูเมืองชายแดน สู่การค้าและการท่องเที่ยว AEC รวมทั้งสร้างความร่วมมือและพันธมิตรการท่องเที่ยวบนเส้นทาง EWEC และบรูณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการเตรียมการเข้าสู่ AEC
ซึ่ง “นครแม่สอด” กำลังจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลให้ยกฐานะเป็นเขตปกครองพิเศษและเขตเศรษฐกิจพิเศษ ไปพร้อมๆ กัน