บุรีรัมย์ - ตัวแทนชาวบ้านชุมนุมต้านบ่อขยะเทศบาลลำปลายมาศ เน่า 20 ปี บุกยื่นหนังสือผู้ว่าฯบุรีรัมย์ จี้เร่งแก้ปัญหา หลังรวมตัวชุมนุมปิดถนนไม่ให้รถเทศบาลนำขยะไปทิ้งนาน 9 วัน แต่ทั้งเทศบาล-อบต.และอำเภอ ยังเมินไม่เหลียวแล ขณะชาวบ้านยันให้ย้ายบ่อขยะออกจากพื้นที่ พร้อมขู่ยกระดับการเคลื่อนไหวถึงที่สุด
วันนี้ (22 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ผู้นำชุมชนพร้อมตัวแทนชาวบ้าน 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.หินโคลน หนองคู และ ต.โคกล่าม อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ รวมตัวชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมยื่นหนังสือผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อจี้ให้เร่งเข้าไปแก้ไขปัญหาบ่อขยะบ้านโนนงิ้ว ม.8 ต.หินโคลน ของเทศบาลตำบลลำปลายมาศที่ก่อมลภาวะสร้างความเดือดร้อนมากว่า 20 ปี
ทั้งนี้ หลังจากชาวบ้านได้รวมตัวชุมนุมประท้วงปิดถนนไม่ให้รถเทศบาลนำขยะไปทิ้งพร้อมเรียกร้องให้ย้ายบ่อขยะดังกล่าวออกจากพื้นที่ ยืดเยื้อเป็นเวลานานถึง 9 วันแล้ว แต่ทางเทศบาลตำบลลำปลายมาศ, อบต.หินโคลน และทางอำเภอลำปลายมาศ กลับเมินไม่เหลียวแลเข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านปล่อยให้ชาวบ้านต้องทนสูดดมกลิ่นเหม็นเน่าสูดควันจากการเผาขยะที่ฟุ้งกระจาย และน้ำเสียไหลลงนาข้าวผลผลิตเสียหาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคจากแมลงวัน แมลงสาบ หนู สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนั้น ในวันพรุ่งนี้ (23 ก.พ.) แกนนำชาวบ้านเตรียมเข้าแจ้งความที่ สภ.ลำปลายมาศ เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายกเทศมนตรีลำปลายมาศ และนายก อบต.หินโคลน พร้อมคณะผู้บริหาร ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ด้วย
ด้าน นายบุญมี ถาวร ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 ต.หินโคลน กล่าวว่า ผู้นำชุมชนและชาวบ้านที่มายื่นหนังสือในวันนี้ เพราะต้องการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ลงพื้นที่เข้าไปแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เพราะที่ผ่านมาได้ชุมนุมเรียกร้อง และยื่นหนังสือกับทางเทศบาล และอำเภอหลายครั้ง แต่กลับไม่ได้รับการแก้ไข
ทั้งนี้ ยังยืนยันว่า ต้องการให้ย้ายบ่อขยะออกจากพื้นที่ เพราะที่ผ่านมาชาวบ้านต้องทนทุกข์เดือดร้อนกับปัญหาดังกล่าวมานานกว่า 20 ปีแล้ว หากยังไม่ได้รับการแก้ไขเป็นที่น่าพอใจชาวบ้านก็จะยกระดับการเคลื่อนไหวจนถึงที่สุด
ต่อมา นายเฉลิมพล พลวัน ปลัดจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เดินทางมารับหนังสือจากตัวแทนชาวบ้าน พร้อมจะนำเรื่องเสนอผู้ว่าราชการจังหวัด และรับปากว่า จะเดินทางเข้าไปตรวจสอบในพื้นที่เร็วให้เร็วที่สุด และจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เข้ามาหารือถึงแนวทางในการแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของชาวบ้านดังกล่าวต่อไป
