กาญจนบุรี - ตำรวจสังขละบุรี กาญจน์ พร้อมกำลัง ตชด.134 และฝ่ายปกครอง สนธิกำลังจับกุมขบวนการค้าแรงงานต่างด้าว พบซุกในรถยนต์เก๋ง 2 คันรวม 17 ราย ผู้ต้องหาสารภาพได้ค่าตัวจากแรงงานทั้งหมดคนละ 6,000 บาท
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (19 ก.พ.55) พ.ต.อ.จิตร วิจิตรจินดา ผกก.สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คันซุกซ่อนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าไว้ภายในจำนวนมาก ขับมาตามเส้นทางบ้านเสน่ห์พ่องมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.จิตร จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย ชวนชม รอง ผกก.สส.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.สมบัติ โพธิ์งาม รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.สมชาย โตเฟื่อง สว.สส.ฯ ร่วมกับ ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี นำโดย พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน รอง ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นายวิบูลย์ ปั้นศิริ นายอำเภอสังขละบุรี นายชิษนุพงษ์ เกิดขุมทอง ปลัดอาวุโสฯ มีเจ้าหน้าที่ ตชด.134 นำกำลังเข้าร่วมจับกุมในครั้งนี้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังซุ่มโป่งตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง
ต่อมาพบรถยนต์เก๋งวิ่งตามกันมาจำนวน 2 คัน ลักษณะตรงตามที่สายแจ้งมา เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น พร้อมควบคุมตัวคนขับรถยนต์ไว้ได้ 2 คน คือนายกุหลาบ สุรวิทย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 5 ต.อีปาด อ.กันทรารมย์ จ.ศรีษะเกษ ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฟอร์ด สีแดง หมายเลขทะเบียน งต 3488 กทม.เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะเมื่อตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวทั้งชายหญิงทั้งนั่งและนอนอัดแน่นกันอยู่ภายในรถนับรวมกันได้ทั้งหมด 13 รายเป็นชาย 11 คนหญิง 2 คน ทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวมอญ เชื้อสายพม่า
ส่วนรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีบอรนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กค 2863 ลพบุรี มีนาย ศักดา แสงชมพู อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 6 ต.ลิ้นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับ ภายในพบแรงงานต่างด้าวชาวมอญ เชื้อสายพม่าจำนวน 4 คนเป็นหญิงทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย และลงบันทึกเพื่อผลักดันกลับประเทศต่อไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหา 2 รายซึ่งเป็นคนไทยได้ยอมรับสารภาพว่า แรงงานทั้งหมดจะส่งไปทำงานตามโรงงานในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง โดยได้ค่าตัวจากแรงงานทั้งหมดคนละ 6,000 บาท หลังจากผู้ต้องหาทั้งสองรายรับสารภาพ พนักงานสอบสวนจึงสั่งดำเนินคดีในข้อหาช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการจับกุม ส่วนรถยนต์เก๋งทั้ง 2 คันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางต่อไป
เมื่อเวลา 13.00 น.วันนี้ (19 ก.พ.55) พ.ต.อ.จิตร วิจิตรจินดา ผกก.สภ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ได้รับแจ้งจากสายว่าจะมีรถยนต์เก๋งจำนวน 2 คันซุกซ่อนแรงงานต่างด้าวชาวพม่าไว้ภายในจำนวนมาก ขับมาตามเส้นทางบ้านเสน่ห์พ่องมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองกาญจนบุรี หลังรับแจ้ง พ.ต.อ.จิตร จึงได้สั่งการให้ พ.ต.ท.ศักดิ์ชัย ชวนชม รอง ผกก.สส.สภ.สังขละบุรี พ.ต.ท.สมบัติ โพธิ์งาม รอง ผกก.ป.ฯ พ.ต.ท.สมชาย โตเฟื่อง สว.สส.ฯ ร่วมกับ ชุดสืบสวน ภ.จว.กาญจนบุรี นำโดย พ.ต.อ.ภัทรชัย กอสนาน ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี พ.ต.ท.พีระพจน์ ระหว่างบ้าน รอง ผกก.กสส.ภ.จ.กาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง นายวิบูลย์ ปั้นศิริ นายอำเภอสังขละบุรี นายชิษนุพงษ์ เกิดขุมทอง ปลัดอาวุโสฯ มีเจ้าหน้าที่ ตชด.134 นำกำลังเข้าร่วมจับกุมในครั้งนี้ด้วย โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังซุ่มโป่งตามเส้นทางที่ได้รับแจ้ง
ต่อมาพบรถยนต์เก๋งวิ่งตามกันมาจำนวน 2 คัน ลักษณะตรงตามที่สายแจ้งมา เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและเรียกให้หยุดเพื่อทำการตรวจค้น พร้อมควบคุมตัวคนขับรถยนต์ไว้ได้ 2 คน คือนายกุหลาบ สุรวิทย์ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9 หมู่ 5 ต.อีปาด อ.กันทรารมย์ จ.ศรีษะเกษ ขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฟอร์ด สีแดง หมายเลขทะเบียน งต 3488 กทม.เจ้าหน้าที่ถึงกับผงะเมื่อตรวจค้นพบแรงงานต่างด้าวทั้งชายหญิงทั้งนั่งและนอนอัดแน่นกันอยู่ภายในรถนับรวมกันได้ทั้งหมด 13 รายเป็นชาย 11 คนหญิง 2 คน ทั้งหมดเป็นแรงงานต่างด้าวชาวมอญ เชื้อสายพม่า
ส่วนรถยนต์เก๋งยี่ห้อ ฮอนด้า ซีวิค สีบอรนซ์เทา หมายเลขทะเบียน กค 2863 ลพบุรี มีนาย ศักดา แสงชมพู อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 6 ต.ลิ้นถิ่น อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นคนขับ ภายในพบแรงงานต่างด้าวชาวมอญ เชื้อสายพม่าจำนวน 4 คนเป็นหญิงทั้งหมด เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวแรงงานต่างด้าวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.สังขละบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมายในข้อหาหลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย และลงบันทึกเพื่อผลักดันกลับประเทศต่อไป
จากการสอบสวนผู้ต้องหา 2 รายซึ่งเป็นคนไทยได้ยอมรับสารภาพว่า แรงงานทั้งหมดจะส่งไปทำงานตามโรงงานในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและจังหวัดใกล้เคียง โดยได้ค่าตัวจากแรงงานทั้งหมดคนละ 6,000 บาท หลังจากผู้ต้องหาทั้งสองรายรับสารภาพ พนักงานสอบสวนจึงสั่งดำเนินคดีในข้อหาช่วยซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายให้พ้นจากการจับกุม ส่วนรถยนต์เก๋งทั้ง 2 คันเจ้าหน้าที่ได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลางต่อไป
