ประจวบคีรีขันธ์ - เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ตั้งด่านตรวจเข้มบนถนนเพชรเกษม สกัดคนร้ายแก๋งระเบิดหลบลงใต้ไปมาเลเซีย
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (15 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.เด่นหล้า รัตนกิจ สารวัตรตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 3 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนเพชรเกษม ตั้งแต่อำเภอหัวหิน ถึงอำเภอบางสะพานน้อย เพื่อเป็นมาตรการป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้คนร้ายชาวอิหร่าน 2 คน ที่เจ้าหน้าที่พบว่า ได้นั่งรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุระเบิดที่แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ใช้เป็นเส้นทางหลบหนีไปทางภาคไต้
ภายหลังมีการตั้งข้อสังเกตว่า คนร้ายกลุ่มดังกล่าวได้โดยสารเครื่องบินของการบินไทย เข้าไปพักที่จังหวัดภูเก็ตก่อน แล้วเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ดังนั้น อาจเป็นไปได้ที่กลุ่มคนร้ายที่ยังเหลืออยู่ อาจเดินทางย้อยกลับไปที่จังหวัดภูเก็ตอีกครั้ง เพื่อหลบหนีกบดาน หรือไม่อาจจะลักลอบออกนอกประเทศผ่านภาคใต้ของไทยไปยังประเทศมาเลเซียได้
พ.ต.ท.เด่นหล้า รัตนกิจ สารวัตรตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 3 กล่าวว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดทางผ่านลงสู่ภาคไต้ และมีถนนสายหลัก คือ ถนนเพชรเกษม จะต้องมีการคุมเข้มเป็นพิเศษ ไม่ให้คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี
ล่าสุด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงได้ตั้งด่านตรวจสอบรถที่ได้เดินทางลงภาคใต้ ซึ่งจะต้องวิ่งบนถนนเพชรเกษม ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นระยะทางยาวถึง 222 กิโลเมตร และมีการตรวจสอบรถต้องสงสัยแทบทุกคันเพื่อค้าหาคนร้ายอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบตัวผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด ทั้งนี้จะดำเนินการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง
เมื่อเวลา 12.30 น.วันนี้ (15 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.ท.เด่นหล้า รัตนกิจ สารวัตรตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 3 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้ตำรวจทางหลวงในพื้นที่ ตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนถนนเพชรเกษม ตั้งแต่อำเภอหัวหิน ถึงอำเภอบางสะพานน้อย เพื่อเป็นมาตรการป้องกันและสกัดกั้นไม่ให้คนร้ายชาวอิหร่าน 2 คน ที่เจ้าหน้าที่พบว่า ได้นั่งรถแท็กซี่สีเขียวเหลืองไม่ทราบหมายเลขทะเบียน หลบหนีออกจากจุดเกิดเหตุระเบิดที่แขวงคลองตัน เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร ใช้เป็นเส้นทางหลบหนีไปทางภาคไต้
ภายหลังมีการตั้งข้อสังเกตว่า คนร้ายกลุ่มดังกล่าวได้โดยสารเครื่องบินของการบินไทย เข้าไปพักที่จังหวัดภูเก็ตก่อน แล้วเดินทางเข้ากรุงเทพมหานคร ดังนั้น อาจเป็นไปได้ที่กลุ่มคนร้ายที่ยังเหลืออยู่ อาจเดินทางย้อยกลับไปที่จังหวัดภูเก็ตอีกครั้ง เพื่อหลบหนีกบดาน หรือไม่อาจจะลักลอบออกนอกประเทศผ่านภาคใต้ของไทยไปยังประเทศมาเลเซียได้
พ.ต.ท.เด่นหล้า รัตนกิจ สารวัตรตำรวจทางหลวง กองกำกับการ 3 กล่าวว่า จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดทางผ่านลงสู่ภาคไต้ และมีถนนสายหลัก คือ ถนนเพชรเกษม จะต้องมีการคุมเข้มเป็นพิเศษ ไม่ให้คนร้ายใช้เป็นเส้นทางหลบหนี
ล่าสุด ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง จึงได้ตั้งด่านตรวจสอบรถที่ได้เดินทางลงภาคใต้ ซึ่งจะต้องวิ่งบนถนนเพชรเกษม ผ่านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นระยะทางยาวถึง 222 กิโลเมตร และมีการตรวจสอบรถต้องสงสัยแทบทุกคันเพื่อค้าหาคนร้ายอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่พบตัวผู้ต้องสงสัยแต่อย่างใด ทั้งนี้จะดำเนินการตั้งจุดตรวจจุดสกัดในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง
