ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - โคราชสนธิกำลัง จนท.ร่วม 300 นายบุกเข้าตรวจค้นเรือนจำกลางนครราชสีมาเช้ามืด พบบุหรี่ มีด หนังสือโป๊เพียบ และพบผู้ต้องขังชายฉี่สีม่วง 2 ราย สารภาพนำยาบ้าเข้ามาเสพจริง จนท.เตรียมขยายผลหาที่มา แต่ไม่พบยาเสพติดและสิ่งผิด กม. ด้าน ตร.ภาค 3 สั่ง 8 จังหวัดอีสานล่างเร่งปราบปรามเครือข่ายยาเสพติดในเรือนจำ
วันนี้ (15 ก.พ.) เมื่อเวลา 04.00 น.ที่เรือนจำกลางนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 (รอง ผบช.ภ.3) พร้อมด้วยนายวิตถวัลย์ สุนทรขจิต ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ภาค 3 และนายพยัคฆพันธ์ โพธิ์แก้ว ปลัดจังหวัดนครราชสีมา ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา, เจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) จ.นครราชสีมา, เจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.ภาค 3 ร่วม 300 นาย สนธิกำลังกันบุกเข้าตรวจค้นภายในเรือนจำกลางนครราชสีมา เพื่อหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายอื่นๆ โดยมีนางสุดสวาท สรรเสริญ ผู้บัญชาการเรือนจำกลางนครราชสีมา นำเข้าตรวจค้น ใช้เวลานานร่วม 2 ชั่วโมง
ผลการตรวจค้นปรากฏว่า พบผู้ต้องขังชาย 2 รายมีสารเสพติดในร่างกายจากผลตรวจปัสสาวะเป็นสีม่วง ซึ่งทั้ง 2 รายให้การรับสารภาพว่าได้นำยาบ้าลักลอบเข้ามาเสพภายในเรือนจำจริง ส่วนรายละเอียดอยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สำหรับการตรวจค้นตามเรือนนอนของผู้ต้องขังทั้งหมด พบสิ่งของต้องห้ามนำเข้าเรือนจำต่างๆ เป็นจำนวนมาก เช่น บุหรี่ อาวุธมีด เข็มขัด อุปกรณ์ที่ใช้ในการสักลาย ถุงยางอนามัย หนังสือภาพลามกอนาจาร ไม้ขีดไฟ ช้อน ปากกา เป็นต้น แต่ไม่พบยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมาย และโทรศัพท์มือถือแต่อย่างใด
พล.ต.ต.จักรทิพย์ โหละสุตสกุล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า การสนธิกำลังจากทุกหน่วยงานในพื้นที่ จ.นครราชสีมา เข้าตรวจค้นเรือนจำกลางนครราชสีมาครั้งนี้ เป็นการปฏิบัติการตามนโยบายกวาดล้างยาเสพติดของรัฐบาล ซึ่งขณะนี้ยาเสพติดมีการแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยผู้ค้ารายใหญ่ที่ถูกจับกุมและคุมขังอยู่ตามเรือนจำทั่วประเทศ ยังดำเนินการค้ายาเสพติดมีเครือข่ายอยู่ทั้งในและนอกเรือนจำ
สำหรับกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 ได้เน้นย้ำให้ตำรวจในสังกัดทั้ง 8 จังหวัดอีสานตอนล่าง ดำเนินการระดมกวาดล้างยาเสพติด โดยมุ่งไปที่ผู้เสพ และผู้ค้า ซึ่งหากจับกุมผู้เสพได้ให้ส่งตัวเข้ารับการบำบัด ส่วนผู้ค้าให้ดำเนินคดี ติดตามยึดทรัพย์ รวมถึงขยายผลไปยังต้นตอที่จำหน่าย ซึ่งผู้ต้องหาส่วนใหญ่ยอมรับว่ารับยาเสพติดมาจากเครือข่ายในเรือนจำ
ทั้งนี้ จ.นครราชสีมา มีเรือนจำคุมขังนักโทษอยู่ทั้งสิ้น 3 แห่ง คือ เรือนจำกลางนครราชสีมา, เรือนจำกลางคลองไผ่ อ.สีคิ้ว เป็นสถานที่คุมขังผู้ต้องหาคดีอุกฉกรรจ์และยาเสพติด และเรือนจำบัวใหญ่ อ.บัวใหญ่
สำหรับเรือนจำกลางนครราชสีมาที่เจ้าหน้าที่บุกเข้าตรวจค้นครั้งนี้ มีผู้ต้องขัง รวมทั้งสิ้น 3,069 คน แยกเป็นผู้ต้องขังชาย จำนวน 2,735 คน และผู้ต้องขังหญิง จำนวน 239 คน ผู้ต้องขังส่วนใหญ่เป็นผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคดียาเสพติด ร้อยละ 70 ที่เหลือเป็นความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ และทำร้ายร่างกาย
