พระนครศรีอยุธยา - เจ้าหน้าที่ประจำวัดไชวัฒนาราม พระนครศรีอยุธยา เร่งสูบน้ำออกทุก 3 ชั่วโมง หลังเกิดฝนตกหนักจนน้ำท่วมขัง ขณะที่ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อยู่ด้านหน้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เบื้องต้นเกรงกันว่าปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้นในขณะนี้อาจจะส่งผลกระทบกับการฟื้นฟูโบราณสถาน
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประจำวัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องเปิดเครื่องสูบน้ำที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดไชยวัฒนาราม ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังด้านหลังทิศตะวันตกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเกิดฝนตกหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำฝนเกิดการท่วมขัง ส่งผลให้การฟื้นฟูโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ทำงานลำบาก
เบื้องต้นได้มีการกำหนดการสูบน้ำออกทุก 3 ชั่วโมง หรือหากน้ำไหลมารวมกันจนถึงฝาท่อระบายน้ำก็ให้เดินเครื่องสูบน้ำ ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่ทำการสูบน้ำมาแล้ว 4 วัน
ขณะที่การระบายน้ำท้ายเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิตติ์ ในช่วงน้ำ ทำให้เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เร่งระบายน้ำ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านหน้าวัดไชยวัฒนารามเพิ่มสูงขึ้น ระดับน้ำเหลืออีกประมาณ 3 เมตร จะล้นตลิ่ง ซึ่งหากเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านๆ มา ปริมาณน้ำจะสูงยังไม่ถึงครึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา
อย่างไรก็ตาม นายสุพจน์ พรหมมาโนช ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ประมาณน้ำในขณะนี้ ยังไม่ส่งผลกระทบหรือจะทำให้เกิดความกังวลกับโบรารสถานวัดไชยวัฒนาราม แต่อย่างใด ส่วนจุดที่เกิดปัญหาจนทำให้ปริมาณน้ำพังเข้าท่วมภายในโบราณสถานวัดไชยวัฒนารามนั้นอยู่ระหว่างการให้ผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จทันก่อนหน้าน้ำท่วมในปีนี้
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ประจำวัดไชยวัฒนาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องเปิดเครื่องสูบน้ำที่ตั้งอยู่ด้านหน้าวัดไชยวัฒนาราม ตำบลบ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อระบายน้ำที่ท่วมขังด้านหลังทิศตะวันตกลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา เนื่องจากเกิดฝนตกหนักเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้น้ำฝนเกิดการท่วมขัง ส่งผลให้การฟื้นฟูโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ทำงานลำบาก
เบื้องต้นได้มีการกำหนดการสูบน้ำออกทุก 3 ชั่วโมง หรือหากน้ำไหลมารวมกันจนถึงฝาท่อระบายน้ำก็ให้เดินเครื่องสูบน้ำ ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่ทำการสูบน้ำมาแล้ว 4 วัน
ขณะที่การระบายน้ำท้ายเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิตติ์ ในช่วงน้ำ ทำให้เขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท เร่งระบายน้ำ ลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ด้านหน้าวัดไชยวัฒนารามเพิ่มสูงขึ้น ระดับน้ำเหลืออีกประมาณ 3 เมตร จะล้นตลิ่ง ซึ่งหากเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่ผ่านๆ มา ปริมาณน้ำจะสูงยังไม่ถึงครึ่งของแม่น้ำเจ้าพระยา
อย่างไรก็ตาม นายสุพจน์ พรหมมาโนช ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ประมาณน้ำในขณะนี้ ยังไม่ส่งผลกระทบหรือจะทำให้เกิดความกังวลกับโบรารสถานวัดไชยวัฒนาราม แต่อย่างใด ส่วนจุดที่เกิดปัญหาจนทำให้ปริมาณน้ำพังเข้าท่วมภายในโบราณสถานวัดไชยวัฒนารามนั้นอยู่ระหว่างการให้ผู้รับเหมาเข้ามาดำเนินการ ซึ่งคาดว่าจะเสร็จทันก่อนหน้าน้ำท่วมในปีนี้
