นายกิตติ ตันเจริญ ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวถึงกรณีระดับน้ำในแม่น้ำน้อยเพิ่มสูงขึ้น และล้นตลิ่งท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมน้ำใน อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า สาเหตุเกิดจากมีฝนตกหนักบริเวณลำน้ำแม่น้ำน้อย โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 2 และ 3 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา
ส่วนการพร่องน้ำจากเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณวันละ 109 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำส่วนใหญ่ผันไปใช้ในพื้นที่ชลประทาน ทำให้ปริมาณน้ำที่เหลือรวมกับน้ำธรรมชาติที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท อัตราการไหลระหว่าง 710-734 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งมากกว่าช่วงสัปดาห์ก่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่น่าส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบริเวณดังกล่าว และพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ตั้งแต่ท้ายเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ลงไปถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่มีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง และยังสามารถรับน้ำได้โดยไม่มีปัญหา จึงยังคงระบายน้ำจากเขื่อนตามเดิม
ด้านนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การพร่องน้ำจาก 2 เขื่อนหลัก ประกอบกับมีปริมาณฝนที่ตกลงมา ได้ไหลมารวมกับปริมาณน้ำในลำน้ำสาขาต่างๆ ของระบบชลประทาน จึงส่งผลทำให้เกิดผลกระทบในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน้อยของ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งระดับน้ำที่ท่วมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 เซนติเมตร แม้ว่าจะมีพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นบางจุด และมีพื้นที่ไม่มากนัก แต่ก็ได้สั่งการให้กรมชลประทานเข้าไปบริหารจัดน้ำในคลองเล็กคลองน้อย และเร่งระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น เพื่อที่จะลดระดับน้ำให้เข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์
ทั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมการระบุว่า การพร่องน้ำต่อไปคงต้องปรับให้เหมาะสมมากขึ้น จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยด้วย
ส่วนการพร่องน้ำจากเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ปริมาณวันละ 109 ล้านลูกบาศก์เมตร ปริมาณน้ำส่วนใหญ่ผันไปใช้ในพื้นที่ชลประทาน ทำให้ปริมาณน้ำที่เหลือรวมกับน้ำธรรมชาติที่ไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท อัตราการไหลระหว่าง 710-734 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งมากกว่าช่วงสัปดาห์ก่อนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จึงไม่น่าส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในบริเวณดังกล่าว และพื้นที่ด้านท้ายน้ำ ตั้งแต่ท้ายเขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ ลงไปถึง จ.พระนครศรีอยุธยา ไม่มีปัญหาน้ำล้นตลิ่ง และยังสามารถรับน้ำได้โดยไม่มีปัญหา จึงยังคงระบายน้ำจากเขื่อนตามเดิม
ด้านนายธีระ วงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า การพร่องน้ำจาก 2 เขื่อนหลัก ประกอบกับมีปริมาณฝนที่ตกลงมา ได้ไหลมารวมกับปริมาณน้ำในลำน้ำสาขาต่างๆ ของระบบชลประทาน จึงส่งผลทำให้เกิดผลกระทบในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำน้อยของ อ.เสนา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งระดับน้ำที่ท่วมโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 40 เซนติเมตร แม้ว่าจะมีพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นบางจุด และมีพื้นที่ไม่มากนัก แต่ก็ได้สั่งการให้กรมชลประทานเข้าไปบริหารจัดน้ำในคลองเล็กคลองน้อย และเร่งระบายน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้น เพื่อที่จะลดระดับน้ำให้เข้าสู่ภาวะปกติภายใน 1 สัปดาห์
ทั้งนี้ ทางคณะอนุกรรมการระบุว่า การพร่องน้ำต่อไปคงต้องปรับให้เหมาะสมมากขึ้น จะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยด้วย
