พระนครศรีอยุธยา - “ปลอดประสพ” แอ่นอกรับขอโทษชาวบ้านอำเภอเสนา พระนครศรีอยุธยา หลัง 2 เขื่อนใหญ่เร่งระบายน้ำทำให้น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วม รับปากต่อไปก่อนปล่อยน้ำจะแจ้งให้ชาวบ้านทราบล่วงหน้า
วันนี้ (9 ก.พ.) เวลา 16.00 น.นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เดินทางมาที่เทศบาลตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตรวจพื้นที่น้ำท่วม ของอำเภอเสนา จังหวัดพระนครนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ ได้มีการเรียกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนชาวบ้านนอกฤดู
นายปลอดประสพ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมและไม่สบายใจ หลังจากที่มีการเร่งระบายน้ำจาก 2 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ เป็นผลทำให้ชาวบ้านท้ายน้ำถูกน้ำท่วม จึงสั่งการให้ตนเองเดินทางมาสอบถามและหาทางแก้ปัญหาโดยด่วน เบื้องต้นต้องขอโทษชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเสนา ที่รัฐบาลเร่งระบายน้ำจนทำให้เกิดปัญหาครั้งนี้ พร้อมยอมรับว่า จะต้องมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการทำงาน และจะให้ความสำคัญกับจังหวัดที่มีผลกระทบมากที่สุดเป็นอันดับแรก
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบแนวทางให้ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวแก้ปัญหานี้แล้ว คือ จะสั่งให้มีการระบายน้ำออกไปยังพื้นที่อื่น เช่น พื้นที่ฝั่งตะวันออก เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ลงแม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำป่าสักเพื่อเฉลี่ยน้ำกันไป เพราะขณะนี้ 2 เขื่อนใหญ่เร่งระบายน้ำอยู่ที่ 100 ล้าน ลบ.ม./วัน ซึ่งหากระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างเดียวก็จะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมแบบนี้อีก
ส่วนพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมต้องแบ่งออกเป็นพื้นที่ในคันกั้นน้ำให้ทางจังหวัด และท้องถิ่นลงไปช่วยเหลือและดูว่าชาวบ้านต้องการสิ่งใด ส่วนชาวบ้านนอกคันกั้นน้ำบางส่วนที่ถูกน้ำท่วมนั้น ให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดทำเรื่องเสนอไปยังรัฐบาลในการขอความช่วยเหลือ หรือชดเชยให้ชาวบ้านตามระเบียบของทางราชการ
นอกจากนี้ จะสั่งให้ทีมวิศวกรของกรมชลประทานลงมาสำรวจหาแนวทางในการนำน้ำจากคลองบางหลวง และคลองโผงเผง กลับขึ้นไปในระบบการส่งน้ำเพื่อกระจายน้ำออกไปพื้นที่อื่นด้วย เพราะเท่าที่ทราบน้ำจาก 2 คลองนี้ คือตัวปัญหาที่ทำให้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายปลอดประสพ กล่าวว่า จากนี้ไปจะหารือในการแจ้งเตือนภัยกับชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ป่าสัก ลพบุรี และแม่น้ำน้อยให้เร็วที่สุด ซึ่งการแจ้งเตือนภัยกับชาวบ้านจะต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เพราะชาวบ้านจะได้มีเวลาเตรียมตัวทัน นอกจากนี้ จะต้องปรับเรื่องฐานข้อมูลการระบายน้ำด้วย เพื่อให้ชาวบ้านรู้ว่าหาสกปล่อยน้ำมาเท่านี้ ความสูงของน้ำในแต่ละแม่น้ำจะเพิ่มขึ้นเท่าใด
วันนี้ (9 ก.พ.) เวลา 16.00 น.นายปลอดประสพ สุรัสวดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เดินทางมาที่เทศบาลตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตรวจพื้นที่น้ำท่วม ของอำเภอเสนา จังหวัดพระนครนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ ได้มีการเรียกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมาหารือถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนชาวบ้านนอกฤดู
นายปลอดประสพ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี เป็นห่วงชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วมและไม่สบายใจ หลังจากที่มีการเร่งระบายน้ำจาก 2 เขื่อนใหญ่ คือ เขื่อนภูมิพล และเขื่อนสิริกิติ์ เป็นผลทำให้ชาวบ้านท้ายน้ำถูกน้ำท่วม จึงสั่งการให้ตนเองเดินทางมาสอบถามและหาทางแก้ปัญหาโดยด่วน เบื้องต้นต้องขอโทษชาวบ้านในพื้นที่อำเภอเสนา ที่รัฐบาลเร่งระบายน้ำจนทำให้เกิดปัญหาครั้งนี้ พร้อมยอมรับว่า จะต้องมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดความผิดพลาดในการทำงาน และจะให้ความสำคัญกับจังหวัดที่มีผลกระทบมากที่สุดเป็นอันดับแรก
นายปลอดประสพ กล่าวว่า ขณะนี้ได้มอบแนวทางให้ทางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และหน่วยงานที่เกี่ยวแก้ปัญหานี้แล้ว คือ จะสั่งให้มีการระบายน้ำออกไปยังพื้นที่อื่น เช่น พื้นที่ฝั่งตะวันออก เพื่อผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ลงแม่น้ำลพบุรี และแม่น้ำป่าสักเพื่อเฉลี่ยน้ำกันไป เพราะขณะนี้ 2 เขื่อนใหญ่เร่งระบายน้ำอยู่ที่ 100 ล้าน ลบ.ม./วัน ซึ่งหากระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยา อย่างเดียวก็จะทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมแบบนี้อีก
ส่วนพื้นที่ที่ถูกน้ำท่วมต้องแบ่งออกเป็นพื้นที่ในคันกั้นน้ำให้ทางจังหวัด และท้องถิ่นลงไปช่วยเหลือและดูว่าชาวบ้านต้องการสิ่งใด ส่วนชาวบ้านนอกคันกั้นน้ำบางส่วนที่ถูกน้ำท่วมนั้น ให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดทำเรื่องเสนอไปยังรัฐบาลในการขอความช่วยเหลือ หรือชดเชยให้ชาวบ้านตามระเบียบของทางราชการ
นอกจากนี้ จะสั่งให้ทีมวิศวกรของกรมชลประทานลงมาสำรวจหาแนวทางในการนำน้ำจากคลองบางหลวง และคลองโผงเผง กลับขึ้นไปในระบบการส่งน้ำเพื่อกระจายน้ำออกไปพื้นที่อื่นด้วย เพราะเท่าที่ทราบน้ำจาก 2 คลองนี้ คือตัวปัญหาที่ทำให้เกิดน้ำท่วมหลายพื้นที่ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
นายปลอดประสพ กล่าวว่า จากนี้ไปจะหารือในการแจ้งเตือนภัยกับชาวบ้านในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ป่าสัก ลพบุรี และแม่น้ำน้อยให้เร็วที่สุด ซึ่งการแจ้งเตือนภัยกับชาวบ้านจะต้องแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 1 วัน เพราะชาวบ้านจะได้มีเวลาเตรียมตัวทัน นอกจากนี้ จะต้องปรับเรื่องฐานข้อมูลการระบายน้ำด้วย เพื่อให้ชาวบ้านรู้ว่าหาสกปล่อยน้ำมาเท่านี้ ความสูงของน้ำในแต่ละแม่น้ำจะเพิ่มขึ้นเท่าใด
