ชัยภูมิ - ผู้ว่าฯ ชัยภูมินำกำลัง ตร.-จนท.ราชทัณฑ์กว่า 100 บาย บุกค้นเรือนจำชัยภูมิ สนองนโยบายป้องกันปราบปรามยาเสพติดของรัฐบาล แต่ไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย มีเพียงบุหรี่สิ่งต้องห้ามไม่ให้ครอบครอง เช่น มีด กรรไกร และยาแก้ปวด เผยมีผู้ต้องขังทั้งหมดกว่า 1,000 ราย กว่า 80% เป็นนักโทษคดียาเสพติด
วันนี้ (8 ก.พ.) เวลา 06.00 น.ที่เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ นายชนะ นพสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ พร้อมด้วย พล.ต.ต.พินิต มณีรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด (ผบก.ภ.จว.) ชัยภูมิและนางสาวบุษบา เกตุอุดม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ, เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์เรือนจำ กว่า 100 นาย เข้าตรวจค้นเรือนนอนทั้งชายและหญิง ตู้เก็บของผู้ต้องขังและพื้นที่โดยรอบของเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ เพื่อค้นหายาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมายที่อาจมีผู้ต้องขังลักลอบนำเข้ามา
จากการตรวจค้นไม่พบสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือยาเสพติด พบเพียงพบบุหรี่ที่มีครอบครองเกินจำนวนที่กำหนด ยาแก้ปวด ยาแก้แพ้ มีด ด้ามแปรงสีฟันที่ฝนปลายแหลมใช้เป็นอาวุธได้ จำนวนหนึ่ง จึงตรวจยึดไว้เพื่อทำการตรวจสอบหาต่อไป
นายชนะ นพสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ในการตรวจค้นเรือนจำชัยภูมิในครั้งนี้เพื่อเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้รับมอบนโยบายจากรัฐบาลเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดของยาเสพติดและการป้องกันและปราบปรามปัญหายาเสพติดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งผลการตรวจไม่พบสิ่งที่ผิดกฎหมาย พบเพียงสิ่งต้องห้ามมิให้ครอบครองเช่น มีด กรรไกร ยาแก้แพ้ ยาแก้ปวด ซึ่งผู้ต้องขังที่มาอยู่ในเรือนจำจังหวัดชัยภูมิเป็นผู้ที่ได้รับโทษไม่หนักมากนัก
ส่วนผู้ต้องโทษคัดกรองก็ย้ายไปอยู่ที่เรือนจำอื่นหมดแล้ว จึงทำให้สถานการณ์และการดูแลความสงบเรียบร้อยในเรือนจำเป็นไปด้วยความเรียบร้อย มีความปลอดภัยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงมากนัก
ด้าน น.ส.บุษบา เกตุอุดม ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดชัยภูมิ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาทางเรือนจำมีการตรวจค้นสิ่งที่ผิดกฎหมายและยาเสพติดภายในเป็นประจำทุกสัปดาห์และมีกำชับเจ้าหน้าที่ทุกคนให้เข้มงวดและกวดขันการนำพาสิ่งของต้องห้ามผ่านเข้าไปในเรือนจำอย่างจริงจังและทำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันเรือนจำจังหวัดชัยภู มิมีผู้ต้องขังทั้งหมด 1,052 คน เป็นชาย 890 คน หญิง 133 คน ผู้ต้องกักขังชาย 12 คน และ เป็นผู้รอพิสูจน์ชาย 16 คน และหญิง 2 คน ส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 ของผู้ต้องขัง เป็นผู้ต้องโทษด้วยคดียาเสพติด