ตราด - ช้างป่าบุกสวน 3 หมู่บ้านในพื้นที่ ต.สะตอ อ.เขาสมิง และ ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่ จ.ตราด เสียหายหนัก ด้านนายก 2 อบต. 1 เทศบาล ร่วมประชุมแก้ปัญหา 14 ก.พ.นี้
จากการที่ช้างป้าจำนวนนับ 10 ตัว ออกหากินอาหารและพืชสวนของประชาชนใน 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.สะตอ อ.เขาสมิง, ต.ช้างทูน และ ต.หนองบอน อ.บ่อไร่ จ.ตราด โดยมี 8-10 หมู่บ้าน ได้รับผลกระทบจากช้างป่าโขลงนี้นั้น
ล่าสุด วันนี้ (6 ก.พ.) ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายปราโมทย์ จันทร์กระจ่าง นายก อบต.สะตอ อ.เขาสมิง จ.ตราด ว่า มีช้างป่าจำนวน 5-10 ตัว ได้เข้ามากินอาหารโดยเฉพาะต้นกล้วย, สละ และพืชสวนอื่นๆ ใน 3 หมู่บ้าน ประกอบด้วย บ้านเขาชะอม บ้านคลองปุก และบ้านคลองมาตร ทำให้มีพืชสวนผลไม้ของชาวบ้านได้รับความเสียหายกินบริเวณกว้างกว้างหลายสิบไร่ โดยช้างป่าจะเลือกกินเฉพาะผลไม้ที่สุก
ด้าน นายทองปาน สุวรรณ อายุ 64 ปี ผู้ดูแลสวน นายริศ ต.สะตอ อ.เขาสมิง เล่าให้ฟังว่า ช้างป่าจะลงมาทุกคืน บางครั้งจะลงมา 1 ตัว บางครั้งก็มาเป็นฝูง มาแล้วก็มาเลือกกินสละข้างบ้าน และเดินเข้าไปในสวน โดยที่ไม่สามารถป้องกันได้ จะขับไล่ก็ได้แค่ชั่วคราว ใช้ระเบิดปิงปองช้างก็กลัวในครั้งแรก แต่หลังจากนั้นก็กลับมาอีก และจะเป็นเช่นนี้ทุกครั้ง
ทั้งนี้ สิ่งที่น่าเป็นห่วง ก็คือ ทุเรียนและลองกอง ที่จะมีผลสุกใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้ และหากช้างป่าโขลงออกมาเก็บกินจะสร้างความเสียหายเพิ่มมากขึ้น และอาจทำให้ชาวสวนได้รับความเดือดร้อนเป็นหนี้สินอีกครั้ง
ขณะที่บ้านเลขที่ 7/2 ม.4 บ้านคลองมาตร (ซอยน้ำตกสลัดได) ต.ช้างทูน อ.บ่อไร่ จ.ตราด ที่มีนายไกรสร อารีย์ อายุ 35 ปี เป็นเจ้าของบ้าน ถูกช้างพลายเข้ามาบริเวณครัวหลังบ้านและใช้งวงหยิบกล้วยที่วางไว้ใต้เตาภายในครัวกิน แต่เนื่องจากตัวใหญ่ทำให้กำแพงอิฐบล็อกพังลงมาทับเตาแก๊ส และเตาอั้งโล่ รวมทั้งบริเวณครัวได้รับความเสียหาย
ซึ่ง นางสำเนา ตุคะเทพี อายุ 51 ปี ซึ่งเป็นแม่ยายของ นายไกรสร เล่าว่า ช่วงดึกของคืนที่ผ่านมา มีช้างป่าขนาดใหญ่เดินเข้ามาที่บริเวณหน้าบ้านแล้วผ่านเข้ามาในบ้านของลูกสาวที่นอนอยู่กับหลาน จากนั้นจึงเดินเข้าด้านหลังครัว และคาดว่า ช้างป่าน่าจะได้กลิ่นกล้วยที่วางไว้ใต้เตาอั้งโล่ จึงใช้งวงยื่นเข้ามาเพื่อจะหยิบ จึงทำให้กำแพงบ้านพังเสียหาย ข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนครัวไปหมด ลูกสาวและหลานก็วิ่งหนีไปหลบด้วยความกลัวว่าช้างจะทำร้าย
นอกจากนี้ ในบริเวณส่วนใกล้เคียงพบร่องรอยช้างเดินบุกสวนและทำลายรั้วของชาวสวน จนได้รับความเสียหาย ขณะเดียวกัน ยังพบรอยเท้าช้างป่ากว้างประมาณ 1 ฟุต เดินข้ามถนนสายน้ำตกสลัดไดเข้าไปในใสวนปาล์มของเกษตรกร แต่เนื่องจากช้างป่าไม่กินปาล์มทำให้ไม่ได้รับความเสียหาย
นายเกษม มั่นคง นายก อบต.ช้างทูน กล่าวว่า ปีนี้ช้างป่าลงมาเร็วกว่าทุกปี และเข้ามาทำลายพืชไร่ของเกษตรกรจำนวนหลายรายได้รับความเสียหายจำนวนมาก รวมทั้งบ้านของประชาชน ซึ่งการแก้ปัญหาเป็นไปด้วยความยากลำบาก ทำได้แค่เพียงเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมงเท่านั้น
ส่วนในระยะยาวได้เชิญผู้บริหาร อบต.สะตอ และ เทศบาล ต.หนองบอน เข้าร่วมประชุมคณะกับนักวิชาการของมหาวิทยาลัยราชภัฎรำไพพรรณี เพื่อศึกษาแนวทางการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้างที่จะประชุมในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2555 นี้ต่อไป
