ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- “ม้าเหล็ก” ชนกระบะผู้รับเหมาก่อสร้างโคราชพังยับ แม่ลูกดับ 2 ศพ เจ็บ 3 ราย คาดคนขับประมาทและจุดเกิดเหตุเป็นทางข้ามรางรถไฟไม่มีแผงกั้นและสัญญาณเตือนใดๆ ทำให้เกิดอุบัติเหตุสยองตายเจ็บอื้อดังกล่าวดังกล่าว
วันนี้ (3 ก.พ.) เวลาประมาณ 08.00 น.พ.ต.ท.มนัสชัย วีระภักดี ร้อยเวร สภ.มะเริง อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถไฟ ชนกับรถยนต์กระบะ บริเวณทางข้ามรางรถไฟ บ้านสารภี ต.มะเริง อ.เมือง จ.นครราชสีมา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย จึงนำกำลังรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุ
ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะสีเขียว ยี่ห้องอีซูซุ แค็บ หมายเลขทะเบียน ถล 7522 กรุงเทพฯ สภาพพังยับเยิน มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย และบาดเจ็บรวม 3 ราย โดยผู้เสียชีวิตที่ติดอยู่ในซากรถกระบะบริเวณแค็บ หลังที่นั่งคนขับเป็นเด็กชายอายุประมาณ 8-9 ขวบ ทราบเพียงชื่อเล่นว่า “น้องแม็กกี้”
ส่วนอีกศพกระเด็นจากออกรถกระบุไปไกลประมาณ 5 เมตร ทราบชื่อคือ นางสกาวรัตน์ จันสถิ อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 2 ม. 9 ต.แหลมกลัด อ.เมือง จ.ตราด มารดาของ “น้องแม็กกี้” และมีผู้บาดเจ็บสาหัส 1ราย คือ นายแอ ครโสภา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 452 ม. 2 ต.ธาตุพนมเหนือ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม คนขับรถ ซึ่งสามีนางสกาวรัตน์ และ พ่อของน้องแม็กกี้ ผู้ตาย
นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บเป็นเด็กทารกอายุประมาณ 1 ขวบ กระเด็นออกจากรถอยู่ใกล้กับศพนางสกาวรัตน์ ผู้เป็นแม่ ซึ่งทั้งผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าวเป็นครอบครัวเดียวกัน สำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 1 ราย เป็นผู้โดยสารมากับรถไฟนิ้วเท้าขาดเนื่องจากถูกกระจกรถยนต์กระบะกระเด็นใส่และห่างไปกว่า 500 เมตร พบรถไฟดีเซลราง ขบวนที่ 234 สายสุรินทร์-กรุงเทพฯ จอดอยู่ด้านหน้าพังยับเยิน
จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบว่า รถยนต์กระบะคันเกิดเหตุมีผู้โดยสารนั่งมาด้วยกัน 5 คน มีนายแอ เป็นคนขับมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง โดยมีครอบครัวภรรยาและลูกนั่งอยู่ด้านหน้าห้องโดยสารรวม 4 คน ส่วนคนงานคือ นายสม พุทธวง อายุ 29 ปี อยู่ที่แขวงสะหวันเขต สปป.ลาว นั่งมาด้านท้ายกระบะ กำลังจะรีบไปทำงานก่อสร้างที่โรงพยาบาล ป.แพทย์ในตัวเมืองนครราชสีมา เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นทางข้ามทางรถไฟไม่มีแผงกั้นและสัญญาณเตือน คาดว่านายแอ มองไม่เห็นรถไฟที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงประกอบกับพยายามเร่งเครื่องขึ้นแซงรถจักรยานยนต์ด้านหน้าเพื่อข้ามทางรถไฟ เป็นจังหวะเดียวกับที่รถไฟมาถึงพอดีทำให้พุ่งชนกลางลำรถยนต์กระบะอย่างจังกระเด็นตกข้างทางรถไฟพังยับเยิน
ส่งผลให้นางสกาวรัตน์ ภรรยา ซึ่งอุ้มลูกน้อยอยู่กระเด็นออกมาเสียชีวิต ส่วนลูกได้รับบาดเจ็บ ขณะเด็กชายแม็กกี้ ลูกอีกคน ที่นั่งอยู่ในแค็บเสียชีวิตคาที่ สำหรับคนขับบาดเจ็บสาหัส ส่วนนายสม ชาวลาว กระโดดลงจากรถก่อนที่รถไฟจะพุ่งเข้าชนจึงรอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้อย่างหวุดหวิด
ส่วนผู้โดยสารที่โดยสารมากับรถไฟที่ได้รับบาดเจ็บ คาดว่าจะออกมาสูบบุหรี่อยู่บริเวณประตูทางออกจึงทำให้เศษกระจกรถยนต์กระบะกระเด็นไปบาดเท้า ทำให้นิ้วเท้าขาดดังกล่าว ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะทำการสอบปากคำนายแอ คนขับอีกครั้ง เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้านนายสม พุทธวง คนงานชาวสสป.ลาว ที่อยู่ในเหตุการณ์เฉียดตายครั้งนี้ เล่าให้ฟังว่า นายแอ นายจ้างพามาทำงานก่อสร้างที่โรงพยาบาลป.แพทย์นานกว่า 1 เดือนแล้วโดยเป็นงานเชื่อมเหล็ก ปกติจะมีเพื่อนคนงานชาวลาวนั่งมาด้านหลังกระบะด้วยกัน 2 คนแต่วันนี้เป็นวันหยุดของเพื่อน ตนจึงนั่งมาเพียงลำพัง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุตนเห็นรถไฟวิ่งมาถึงในระยะกระชั้นชิดแล้วคิดว่าจะต้องชนรถยนต์ที่นั่งมาแน่นอนจึงตัดสินใจกระโดดลงจากรถและวิ่งห่างออกจากบริเวณรางรถไฟ ก่อนจะได้ยินเสียงรถไฟชนรถกระบะที่ตนเองนั่งมาดังสนั่นหวั่นไหวและครอบครัวนายจ้างเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว จากนั้นตนได้เรียกชาวบ้านแถวนั่นมาช่วย ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ตกใจเสียขวัญเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้รถไฟอีสานสายนครราชสีมา-อุบลราชธานี เสียเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนจะกลับมาเปิดวิ่งได้ตามปกติแล้ว ส่วนผู้โดยสารในขบวนรถไฟที่เกิดเหตุดังกล่าวต้องไปเปลี่ยนขึ้นรถไฟขบวนใหม่ที่สถานีนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อเดินทางสู่ปลายทางต่อไป