พะเยา - นายอำเภอจุน กางแผนพัฒนาพื้นที่รับถนน อาร์3เอ กระตุ้น “เวียงลอ” เมืองโบราณให้กระฉ่อน เป็น 1 ใน 4 เวียงภาคเหนือตอนบน นัดนำชมวิถีชีวิตนกยูงไทยฝูงใหญ่ในประเทศไทย 7 กุมภาฯนี้ ย้ำ ผู้นำท้องถิ่นทุกระดับเป็นตัวอย่างเชิดชู-ปกป้องสถาบัน บ้านทุกหลังาต้องมีพระบรมฉายาลักษณ์-ปลูกต้นไม้เทิดพระเกียรติ 80 ต้น
วันนี้ (2 ก.พ.) นายธงชัย ตรีทิพยรักษ์ นายอำเภอจุน จังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า จากการประชุมประจำเดือนหัวหน้าส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจและผู้นำท้องถิ่นของอำเภอจุน เมื่อ 1 ก.พ.ที่ผ่านมา ณ ที่ว่าการอำเภอจุน ได้ให้แนวทางในการพัฒนาอำเภอจุน เป็นแหล่งท่องเที่ยวหลังจากประกาศพระราชกฤษฎีกาเขตที่ดิน ในบริเวณที่จะเวนคืนจากการสร้างถนน 4 เลน รองรับ R3a จาก จีน-ลาว สิ้นสุดที่บ้านร่องหาด ต.ห้วยข้าวก่ำ อำเภอจุน ซึ่งจะต้องดำเนินให้แล้วเสร็จใน 4 ปี
ทั้งนี้ เพื่อรองรับความเจริญและการท่องเที่ยวที่จะติดตามมา จึงได้นำคณะหัวหน้าส่วนราชการและผู้นำท้องถิ่นได้ออกสำรวจแหล่งท่องเที่ยว โดยเริ่มจากเวียงลอ เมืองโบราณ ที่ตำบลลอ อำเภอจุน เป็นอันดับแรก เนื่องด้วยสำนักงานวัฒนธรรม 4 จังหวัด ได้จัดทำเอกสารแนะนำ 4 เวียงของภาคเหนือตอนบน คือ เวียงกาหลง จังหวัดเชียงราย, เวียงวรนคร จังหวัดน่าน, เวียงสรอง จังหวัดแพร่ และเวียงลอ จังหวัดพะเยา
พร้อมกันนั้น ได้ให้แนวการดำเนินงานแก่นายชำนาญ บัวแดง นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลลอ และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปวางแผนพัฒนาร่วมกัน คือ ทำอย่างไรให้คนรู้จักเวียงลอ ให้มาก คนอำเภอจุนทุกคนต้องรู้จักเวียงลอเป็นอย่างดี รวมถึงการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งงบประมาณ การจัดกิจกรรมต่างๆ
แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในพื้นที่อีกแห่งหนึ่ง คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ ตั้งอยู่ที่บ้านเซียะ ตำบลจุน จุดเด่นก็คือมีสัตว์ป่าหลากหลายทั้งละมั่ง กระจง ไก่ฟ้า นกยูงพันธุ์ไทยฝูงใหญ่หลายฝูง รวมทั้งต้นพระเจ้า 5 พระองค์ ไม้ศักดิ์สิทธิ์โบราณที่จะสูญพันธุ์ แต่ยังอุดมสมบูรณ์ในป่าของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ
พร้อมกันนี้ ตนจะนำหัวหน้าส่วนราชการไปดูวิถีชีวิตธรรมชาติของนกยูงป่า ตามโครงการซุ่มมองนกยูงของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ ในวันที่ 7 ก.พ.55 ที่จะถึงนี้ด้วย
ขณะเดียวกัน จากสถานการณ์การเมืองที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ มีกลุ่มบุคคลผู้ไม่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง และจาบจ้วงสถาบันมากขึ้น ถึงแม้ว่าชาวอำเภอจุน จะเป็นผู้ยึดมั่นในวิถีทางศาสนา การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์เป็นพระประมุขอย่างเหนียวแน่นแล้วก็ตาม แต่ก็ได้ให้แนวทางจัดกิจกรรมเชิดชูสถาบันแก่หัวหน้าส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรต่างๆ และผู้นำท้องถิ่นทุกระดับ 2 ประการ คือ ทุกสถานที่ราชการ ห้องทำงาน ต้องประดับพระบรมฉายาลักษณ์ไว้ในที่เหมาะสม
นอกจากนี้ ให้ผู้ใหญ่บ้าน ทุกหมู่บ้านสำรวจทุกครัวเรือนว่า มีบ้านไหนไม่มีพระบรมฉายาลักษณ์ หรือมีแต่เก่าจนดูไม่สวยงาม ให้แจ้งทางอำเภอเพื่อจะจัดหาให้
ขณะเดียวกัน มอบให้ กศน.อำเภอจุนจัดอบรมการจัดทำกรอบรูปวิทยาศาสตร์ให้กับผู้นำท้องถิ่น เพื่อไปขยายผลให้ประชาชนในหมู่บ้านต่อไป
ประการที่สอง ให้ทุกหมู่บ้าน ทุกส่วนราชการ ทุกองค์กร ปลูกต้นไม้จำนวน 80 ต้น เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติ 80 พรรษา ต้นไม้ที่จะปลูกควรเป็นไม้ที่มีความสำคัญ เช่น ต้นสารภี เพราะเป็นต้นไม้ที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระราชทานให้เป็นไม้ประจำจังหวัดพะเยา และต้นพระเจ้า 5 พระองค์ ไม้ศักดิ์สิทธิ์ ที่คนโบราณนับถือว่า เป็นไม้ที่มีพุทธคุณทางมหานิยม คุ้มครองให้คนที่นับถือและครอบครัวแคล้วคลาดจากภัยพิบัติต่างๆ ประกอบกับเป็นไม้ที่คณะกรรมการที่ปรึกษาเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ กำหนดให้เป็นไม้สัญลักษณ์อีกอย่างหนึ่งของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเวียงลอ ควบคู่กับดงตะเคียน ซึ่งเป็นป่าตะเคียนใหญ่แห่งเดียวในประเทศไทย
นายธงชัย กล่าวต่อว่า การพัฒนาอำเภอจุนนั้น ต้องรวมใจกันเป็นหนึ่งเดียว ทุกฝ่าย ทุกคน ต้องมีความจริงจัง จริงใจในการพัฒนา และตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติราชการที่อำเภอจุน จะร่วมคิด ร่วมทำ ร่วมแก้ปัญหา โดยเฉพาะสิ่งใดเป็นความต้องการหรือปัญหาของประชาชนอำเภอจุน ให้เข้าพบนายอำเภอได้ทุกที่ ทุกเวลา หรือจะไปหาด้วยตนเองให้เร็วที่สุด
“ผู้นำทั้งหลายก็ขอร้องอย่าทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง หรือมือไม่พาย แต่เอาเท้าราน้ำ คนประเภทนี้จะมาพบนายอำเภอได้กรณีเดียวเท่านั้น คือ มาติดต่อราชการ นอกจากนั้นแล้ว จะปิดประตูสื่อสารทุกด้านโดยเด็ดขาด”
