อุตรดิตถ์ - สะพัดนายทุนทำไม้จ่ายเต็ม 30,000 บาทต่อเดือน แลกขนไม้เถื่อนผ่านด่านบนทางหลวง พร้อมจ้างชาวบ้านเมืองลับแล ลอบตัดไม้สักแปลงป่าปลูกในป่าสงวนแห่งชาติ ล่าสุด จนท.เจอคาตา ตามจับกลางดึก แต่ได้แค่ของกลางไม้ท่อน-จยย.ขณะที่คนร้ายทิ้งรถหนีไปได้
รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงราย แจ้งว่า ขณะนี้กลุ่มนายทุนได้ว่าจ้างชาวบ้านของจังหวัดอุตรดิตถ์ที่มีบ้านเรือนอยู่ใกล้ๆ สวนป่า ให้เข้าไปลักลอบตัดไม้สักในแปลงป่าปลูกของรัฐบาล ปี 2504, 2512 และปี 2518 บริเวณบ้านป่าว่าน บ้านปางต้นผึ้ง บ้านเขาพลึง และบ้านน้ำไคร้ ต.ด่านนาขาม อ.เมืองอุตรดิตถ์ โดยมีเจ้าหน้าที่บางหน่วยงานคอยรับผลประโยชน์จากกลุ่มนายทุน เดือนละประมาณ 30,000 บาททุกเดือน
ซึ่งเส้นทางลำเลียงไม้จากแปลงป่าปลูก สู่มือกลุ่มนายทุนใหญ่เหล่านี้ ก็ใช้เส้นทางผ่านด่านต่างๆมากมาย บนทางหลวงหมายเลข 11 ระหว่างจังหวัดอุตรดิตถ์-แพร่ แต่ก็สามารถลำเลียงผ่านด่านตรวจครั้งแล้วครั้งเล่า
เช่น กรณีล่าสุดเวลาประมาณ 01.40 น.เมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) นายพัฒนศักดิ์ ภูมิประภาส หัวหน้าสายตรวจปราบปรามประจำสำนักพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 สายที่ 2 พิษณุโลก พร้อมกำลัง ออกตรวจพื้นที่ที่รับผิดชอบบริเวณบ้านแม่เฉย หมู่ที่ 11 ตำบลด่านนาขาม อำเภอเมือง พบกลุ่มมอดไม้กำลังขนไม้สักท่อนขนาดใหญ่ ยาว 1.90 เมตร หน้าตัดกว้าง (ความโต) 140 เซนติเมตร บรรทุกใส่รถเข็นพ่วงท้ายรถจักรยานยนต์ออกมาจากป่าสงวนแห่งชาติลำน้ำน่านฝั่งขวา หลังน้ำตกแม่เฉย
เมื่อเจ้าหน้าได้ไล่กวดจนทัน กลุ่มมอดไม้ ที่มากัน 2 คนได้ทิ้งรถแล้ววิ่งหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้านแม่เฉย ทิ้งรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า สีแดง-ดำ ขนาด 125 ซีซี ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน เลขตัวถังรถ E 102294 มีไม้สักอยู่บนล้อเข็นหนึ่งท่อน พร้อมอุปกรณ์การทำไม้
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งว่า รถคันดังกล่าวเป็นรถของคนในหมู่บ้านทราบชื่อว่านายสม กะหวาย กับนายโม ไม่ทราบนามสกุล ซึ่งทั้ง 2 คนมีประวัติในการลักลอบตัดไม้ บ้านอยู่ที่ หมู่ 11 บ้านแม่เฉย ตำบลด่านนาขาม
เจ้าหน้าป่าไม้จึงได้ยึดไม้และรถเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุตรดิตถ์ พร้อมแจ้งกล่าวโทษและจะได้ติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดทั้ง 2 คน มาลงโทษ เพราะทราบชื่ออยู่แล้ว
เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมคนหนึ่ง กล่าวว่า คดีนี้ไม่หนักใจ เรารู้ตัวคนทำ ถึงแม้ว่าผู้ต้องสงสัยจะเป็นญาติของผู้นำหมู่บ้านก็ตาม