คนร้ายโหดมัดมือมัดเท้าและปากผู้หญิงเตรียมเผา โชคดีหนีรอดมาได้

ศูนย์ข่าวศรีราชา - คนร้ายก่อเหตุโหดทำร้ายผู้หญิง ด้วยการมัดมือมัดเท้าและปากเตรียมเผา โชคดีร้องให้คนช่วยเหลือหนีรอดมาได้

วันนี้ (30 ม.ค.) ร.ต.ท. ธงชัย ชูแก้ว ร้อยเวร สภ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุผู้หญิงถูกทำร้ายบริเวณหมู่ 7 ใกล้กับแคมป์คนงาน MKK หรือ มงคล เคลือบแสง โดยถูกมัดมือ มัดเท้า และมัดปาก และได้จุดไฟเผา แต่โชคดีหนีรอดจากกองเพลิงได้ โดยมีเพียงไฟไหม้ที่ชายเสื้อเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนบริเวณมือ, เท้า และปาก มีร่องรอยถูกเถาวัลย์มัด พร้อมรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูง คือ พ.ต.ท.สัมฤทธิ์ ขุนชิต รองผกก.สภ.ศรีราชา ทราบ พร้อมเดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ

เมื่อไปถึงพบหญิงสาว ทราบชื่อ น.ส.วรลักษณ์ วินทไชย อายุ 27 ปี ใส่เสื้อยืดคอกลมสีขาว กางเกงยีนส์ขาสั้น ได้ให้การว่า ตนถูกคนร้าย 2 คน ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์มา 2 คน ทำร้ายดังกล่าว เนื่องจาก 1 ในคนร้าย เคยมีปัญหาเมื่อปลายปี 2554 ทีผ่านมา ในช่วงที่เคยทำงานบริษัทขุดเจาะเสาเข็มด้วยกัน โดยทำร้ายและลงมือจะข่มขืน แต่โชคดีมีคนงานมาเห็นเสียก่อน จึงรอดตัวไป โดยทั้งนั้นได้มีการแจ้งความดำเนินคดี และพนักงานคนดังกล่าวได้ถูกไล่ออกจากงาน

น.ส.วรลักษณ์ กล่าวว่า คนร้ายที่ก่อเหตุในครั้งนั้น ได้กลับมาข่มขู่ หลังจากตนและแฟนได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และได้กลับมาก่อเหตุ เป็นครั้งที่ 2 แต่ก็สามารถหลุดรอดมาได้ จนมาถูกก่อเหตุในครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ซึ่งในครั้งนี้มีเป้าหมายหวังฆ่าให้ตาย เนื่องจากมีการจุดไฟเผาด้วย

ด้าน นายไพบูลย์ สมญา อายุ 30 ปี แฟนผู้เสียหาย กล่าวว่า ที่ผ่านมา มีเหตุการณ์จริงตามที่แฟนเล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทราบ แต่คนไม่ได้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงไม่กล้าปักใจเชื่อว่า เป็นการก่อเหตุจริงหรือไม่อย่างไร แต่ก็ระวังตัว โดยไม่ให้แฟนออกไปไหนมาไหนคนเดียว จนมาเกิดเหตุครั้งนี้จนได้

การเกิดเหตุในครั้งนี้ มีเพื่อนที่ทำงานร่วมกันมาช่วยเหลือไว้ได้ทัน เนื่องจากมีคนเห็นและไปบอกให้มาช่วยเหลือ ซึ่งเพื่อนที่มาช่วยเหลือเล่าว่า แฟนถูกเถาวัลย์มัดทั้งมือ, เท้า และปาก และจุดไฟเผา แต่หนีมาร้องให้คนช่วยเหลือไว้ได้ โดยแฟนจะมัดเช่นนั้นได้อย่างไร เพราะรัดแน่นมาก

ด้าน นายไพบูลย์ กล่าวต่อไปว่า คนที่ลงมือก่อเหตุนั้น เคยทำงานที่เดียวกัน แต่ถูกไล่ออกจากงานไปนานแล้ว เนื่องจากมีปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้น จนหัวหน้างานได้ไล่ออกไป และเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็คือ คนเดียวที่เคยมาเหตุมาแล้วเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้จะเป็นจริงหรือไม่อย่างไร ก็ต้องติดตามตัวคนงานดังกล่าว มาสอบถามข้อเท็จจริง ถึงจะทราบเรื่อง

ด้าน พ.ต.ท.สัมฤทธิ์ กล่าวว่า คดีนี้มีความเป็นไปได้ยาก เนื่องจากคนร้ายจะลงมือฆ่าผู้หญิงคนดังกล่าว เพียงใช้เถาวัลย์ มัดมือ, มัดเท้า และปาก โดยไม่ได้ฆ่าหรือทำร้ายให้สลบเสียก่อน แล้วนำไปเผาทั้งเป็น ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ แต่อย่างไรก็ตาม จะต้องติดตามหาพยานหลักฐานที่ผู้เสียหายกล่าวถึง เพื่อหาสาเหตุที่ชัดเจนต่อไป