ชาวขอนแก่นรักในหลวงนับพันแสดงพลังปกป้องสถาบัน

ศูนย์ข่าวขอนแก่น - มาตามนัด “ชาวขอนแก่นรักในหลวง” พร้อมจังหวัดใกล้เคียง นับพันคน ร่วมแสดงพลังปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ จนถึงที่สุด เผยเอกสารลงชื่อคัดค้านแก้มาตรา 112 ไม่พอ ชี้ “วรเจตน์” เนรคุณไม่แยกแยะชั่วดี ด้าน หมอเปรม ฉะรัฐบาลพึ่งไม่ได้ หนุนแนวคิดค้านแก้มาตรา 112 ให้ขยายผลหวังบ้านเมืองสงบ ปลุกคนไทยรักในหลวง ต้องร่วมกันออกมาปกป้องให้ถึงที่สุด

วันนี้ (27 ม.ค.) ที่ลานกิจกรรมศาลเจ้าพ่อหลักเมือง จังหวัดขอนแก่น นักศึกษาและคณาจารย์คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น พร้อมด้วยองค์กรเครือข่ายจัดกิจกรรม “ถวายพระพร และร่วมปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์” จากก่อนหน้านี้ได้ออกแถลงการณ์คัดค้านการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และนัดทำกิจกรรมร่วมกันในวันนี้ โดยมีประชาชนที่จงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ในจังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียงกว่า 1,000 คน ร่วมกิจกรรมอย่างคึกคัก

ภายในกิจกรรมดังกล่าว คณะผู้จัด ได้ทำเอกสาร “คัดค้านการแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112” โดยมีจิตอาสาเข้ามาร่วมกิจกรรมแจกจ่ายให้กับประชาชนที่ประสงค์คัดค้านแก้กฎหมายดังกล่าว ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชน ต่างขอเอกสาร พร้อมกรอกรายละเอียด แนบสำเนาบัตรประชาชนยื่นให้กับองค์กรแพทย์ขอนแก่น เพื่อส่งต่อกลุ่มเสื้อหลากสี ร่วมคัดค้านแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อไป

จากการสอบถามคณะผู้จัดงาน ระบุว่า ได้จัดเตรียมเอกสารไว้ประมาณ 400 ชุด แต่ปรากฏว่า วันนี้มีประชาชนมาร่วมกิจกรรมเกินคาดหมาย แน่นลานกิจกรรม แม้ว่าจะถ่ายเอกสารเพิ่มอีกเท่าตัว แต่ก็ยังไม่เพียงพอ คาดว่า เอกสารลงชื่อคัดค้านแกไข้มาตรา 112 เฉพาะเวทีนี้มีไม่ต่ำกว่า 800 ชุด ยังไม่นับรวมกับที่เครือข่ายชาวขอนแก่นรักในหลวง ไปดำเนินการต่ออีก

นายสืบพงษ์ อริยพิมพ์ หัวหน้าสำนักงานสืบพงษ์และทนายความ แกนนำการคัดค้าน ม.112 กล่าวว่า ขณะนี้มีภัยร้ายที่จะมาเบียดเบียนสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่อยู่กับคนไทยมาช้านาน แกนนำที่จะแก้ไขกฎหมาย คือ ดร.วรเจตน์ เป็นคนที่ได้รับทุนการศึกษามหิดล ควรที่จะสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และกลุ่มนักวิชาการเหล่านั้นได้ทำอะไรเพื่อบ้านเมืองบ้าง มีแต่หาผลประโยชน์เข้าตัว แล้วยังคิดที่จะแก้ไขกฎหมายที่ปกป้องพระมหากษัตริย์ไทย ซึ่งท่านทำเพื่อบ้านเมืองมาโดยตลอด

ความจริงแล้ว หากคิดจะแก้กฎหมายจริงๆ กฎหมายที่เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ใน ม.133 ที่ปกป้องพระมหากษัตริย์บ้านเมืองอื่นทำไมไม่แก้ หรือทำไมไม่แก้ทั้งกระบวน ทำไมจึงเจาะจงแก้เฉพาะที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ไทยเท่านั้น สิ่งเหล่านี้ส่อเจตนาว่า ดร.วรเจตน์ ไม่แยกแยะชั่วดี

ขณะที่ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ อดีต ส.ส.จังหวัดขอนแก่น หลายสมัย ซึ่งเข้ามาร่วมกิจกรรมเวทีนี้ด้วย กล่าวว่า ขณะนี้จะรอพึ่งรัฐบาลคงไม่ได้แล้ว พวกเราจะต้องลุกขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเอง เพื่อให้กษัตริย์หรือในหลวงของเราอยู่คู่ประเทศไทยตลอดไป ตนอยากให้ความคิดคัดค้านแก้มาตรา 112 ขยายผลออกไปอย่างกว้างขวาง เพื่อให้เหตุการณ์เลวร้ายของบ้านเมืองยุติลงเสียที และอยากให้คนไทยทุกคนก้าวออกมาจากบ้าน ทำหน้าที่ของตนเองด้วยความรักและผูกพันกัน

นายกมล กิจกสิวัฒน์ อาชีพทนายความและนักธุรกิจ แกนนำการคัดค้านแก้ไข ม.112 กล่าวว่า ถึงเวลาแล้วที่คนไทยจะลุกขึ้นมาปกป้องสถาบันที่เป็นที่รักของเรา ไม่ว่าจะเป็นสีไหน จะต้องรวมพลังกันเพื่อปกป้องสถาบันพระมหากษัติรย์ ไม่ให้คนเพียงกลุ่มเดียวมาทำลาย หรือมาแก้กฎหมายลิดรอนสถาบันที่หวงแหนของเรา อยากจะเรียกร้องให้ชาวไทยทุกคนออกมาจากบ้าน ลุกขึ้นมาคัดค้านการกระทำที่มิบังควร พวกเราจะสู้เพื่อไม่ให้มีการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวจนถึงที่สุด และอยากให้ประชาชนออกมาคัดค้านให้มากๆ เพื่อให้กลุ่มที่จะแก้ไขกฎหมายล่าถอยออกไป

ด้าน นางนภาพร คงช้อย อาชีพทนายความจากจังหวัดร้อยเอ็ด กล่าวว่า กลุ่มตนได้เดินทางมาจากร้อยเอ็ดกว่า 30 คน เพื่อลงนามร่วมกับคนขอนแก่นปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เพราะท่านมีบุญคุณต่อประเทศไทย ต่อคนไทย และทุกวันนี้มีเพียงกฎหมาย ม.112 เท่านั้น ที่เป็นเครื่องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ ไม่มีกฎหมายอื่นอีก

ขณะที่คนไทยมีกฎหมายต่างๆ คอยรองรับ ดังนั้น หากเราไม่ลุกขึ้นมาคัดค้านการแก้กฎหมาย ม.112 แล้ว สถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยจะถูกกลั่นแกล้ง และอยากให้กลุ่มนิติราษฎร์ถอนคำพูดเหล่านั้น ซึ่งหากกลุ่มคนกลุ่มนั้นไม่เลิก เราก็จะต่อสู้เพื่อนในหลวงของเราจนถึงที่สุด ไม่ยอมถอยเช่นกัน

ทั้งนี้ กิจกรรมนอกจากการลงชื่อคัดค้านแก้มาตรา 112 แล้ว ภายในกิจกรรมดังกล่าว เปิดให้ตัวแทนจากเครือข่าย ร่วมอภิปรายบนเวที ต่างรู้สึกอดสูกับการกระทำของกลุ่มนิติราษฎร์ที่ไม่รู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมกับปลุกให้คนไทยที่อ้างตัวตนว่ารักในหลวงมากว่า 80-90% ต้องกล้าออกมาป้องสถาบันอย่างจริงจัง ไม่ใช่อ้างจงรักภักดีแค่ลมปาก แต่ไม่ยอมทำอะไรเลย

ที่สำคัญ ในเวทีนี้ มี น.ส.มุกสุดา คุ้มบ้านชาติ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนขามแก่นนคร ได้ออกมาแสดงพลังปกป้องในหลวง พร้อมกับแสดงฝีมือ เป่าแซกโซโฟน เครื่องดนตรีสากลบรรเลงเพลงพระราชนิพนธ์ “ชะตาชีวิต” ด้วยท่วงทำนองที่ไพเราะ จนกระทั่งจบบทเพลง สร้างความประทับใจกับผู้ร่วมรับฟังเสียงแซกโซโฟนเป็นอย่างมาก

โดยในเวลา 18.00 น.ผู้ร่วมกิจกรรมได้ร่วมกันร้องเพลงชาติ ต่อด้วยเพลงสรรเสริญพระบารมี เพลงภูมิแผ่นดิน นวมินทร์มหาราชา ซึ่งทุกคนต่างพร้อมใจส่งสำเสียง ดังก้องกังวานไปทั่วบริเวณศาลเจ้าพ่อหลักเมืองขอนแก่น พร้อมกับปฏิญาณตนจะปกป้องในหลวง และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ให้อยู่เป็นมิ่งขวัญของประเทศไทยจนถึงที่สุด