xs
xsm
sm
md
lg

มทภ.3 รับ “ผู้พันณัฐ” มีประวัติเคยถูกอายัดทรัพย์ปี 52-เชื่อยังมีทหารเอี่ยวค้ายาอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 รับมอบ น้ำมันเครื่องมูลค่า 3 แสนบาท จาก บริษัท ปตท.ผส.เพื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องยานพาหนะที่ช่วยเหลือผู้ประสพภัยน้ำท่วมช่วงที่ผ่านมา บริเวณหน้ากองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวร จ.พิษณุโลก ก่อนให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนกรณีนายทหารในสังกัดกองทัพภาคที่ 4 พัวพันการค้ายาเสพติดดังกล่าว
พิษณุโลก - มทภ.3 บอก “ผู้พันณัฐ” เคยถูก ป.ป.ส.อายัดทรัพย์คดียาเสพติดมาแล้วครั้งหนึ่ง ตั้งแต่ปี 52 รับแปลกใจกรมทหารช่างที่ 3 ยังปล่อยให้ทำงานต่อ ขณะที่ “จ่าวีนัส” ยังหนีไร้ร่องรอย คาดรู้ตัวก่อน เชื่อ ยังมีทหารกองทัพภาคที่ 3 เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีก สั่งทุกหน่วยตรวจสอบด่วน


วันนี้ (27 ม.ค.) ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 3 ค่ายสมเด็จพระนเรศวร จ.พิษณุโลก พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 เปิดถึงความคืบหน้ากรณีของ พ.ต.ปิยะณัฐ เกษจำรัส ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจภาค 6 และ ป.ป.ส.จับกุม แล้วถูกนำตัวไปดำเนินคดี หลังถูกซัดทอดว่าเกี่ยวพันกับการค้าเสพติดพันล้าน ว่า ตำรวจได้ประสานมาที่กองทัพภาคที่ 3 จากตนนั้นได้สั่งการให้ผู้บัญชาการกองพลพัฒนาที่ 3 ล็อกตัวเอาไว้ เพื่อทำการสอบสวนในพื้นที่ก่อน และเท่าที่ทราบ พ.ต.ปิยะณัฐ รับสารภาพเรียบร้อยแล้ว

ส่วน จ่าสิบเอก วีนัส ศรีใจ ที่เกี่ยวข้องอีกคนนั้น ช่วงแรกๆ ตำรวจยังไม่ประสานมา ทำให้ล่าช้า ขณะนี้ทราบว่า กำลังหลบหนีอยู่ แต่ทางกองทัพก็กำลังพยายามตามตัวอยู่เช่นกัน คาดว่า
จ่าวีนัส ได้ข่าวล่วงหน้า จึงเขียนใบลาป่วยเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ทหารจะเร่งติดตามตัวเป็นการด่วน เพราะพัวพันกับยาเสพติดรายใหญ่

ส่วนขั้นตอนการดำเนินการต่อไป เมื่อ ป.ป.ส.นำตัวผู้พันณัฐ ไปดำเนินคดีแล้ว กองทัพภาคที่ 3 ก็จะรอขั้นตอนสุดท้ายทางคดี โดยเมื่อมีการส่งฟ้องดำเนินคดี กองทัพก็พร้อมให้ออกราชการทันทีก่อน ขณะที่การปลดออกจากราชการนั้น ต้องรอระบบราชการ คือ ดำเนินคดีทางกฎหมายจนสิ้นสุด และปลดออกในที่สุด

ต่อข้อถามที่ว่า “ผู้พันณัฐ” เคยพัวพันกับคดียาเสพติดมาก่อนหน้านี้หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 3 เผยว่า พ.ต.ปิยะณัฐ เคยถูกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ส.อายัดทรัพย์ในคดียาเสพติด เมื่อปี 2552 โดยอายัดเงินกว่า 3 ล้านบาท แต่ไม่มีทรัพย์สินอื่นๆ ทราบว่าเก็บเงินสดอย่างเดียว

“ผมก็สงสัยว่า ทำไมทางต้นสังกัด คือ กรมทหารช่างที่ 3 ให้ความสนใจน้อย จะมาอ้างว่า ป.ป.ส.ไม่แจ้ง ไม่ทราบไม่ได้ จนทำให้ พ.ต.ปิยะณัฐ ทำงานปกติ จนกระทั่งมาก่อคดีร่วมกันลำเลียงยาบ้าล็อตใหญ่อีก”

ส่วนกรณีที่ ผู้พันณัฐ นำป้ายและบัตรตรา “กอ.รมน.” ติดรถขนยาเสพติดนั้น แม่ทัพภาคที่ 3 บอกว่า ทราบว่า เป็นกระบวนการออกบัตรปลอม ที่ผู้ออกป้ายก็ได้เกษียณไปแล้ว ก็ต้องตรวจสอบการออกบัตรอีกครั้ง

ถามว่า การจับครั้งนี้เป็นอย่างไร แม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า ดีใจ แม้จะเสียชื่อเสียงไปบ้าง แต่ก็ถือกำจัดคนไม่ดีออกไปได้

ส่วนคำถามที่ว่า ยังมีคนในกองทัพภาคที่ 3 เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอีกไหม พล.ท.วรรณทิพย์ บอกว่า ตนว่าต้องมีอีกหลายนาย แต่วันนี้ ยังพูดไม่ได้ ขอให้จับให้ได้ก่อนถึงจะพูด ตนเองได้สั่งให้ทุกหน่วยในกองทัพภาคที่ 3 เร่งตรวจสอบทหารในหน่วยตนเองว่ามีส่วนเกี่ยวกับกับยาเสพติดบ้างหรือไม่ เพราะเราต้องปราบคนของเราก่อน ตรวจฉี่ทุกนาย หากพบว่ามีสีม่วงก็ให้รีบทำการรักษาและบำบัดทันที หรือหากพัวพันเกี่ยวกับการค้ายาเสพติดก็ให้ดำเนินการจับกุม และรายงานให้ตนเองทราบทันที

“เรื่องนี้เราได้เข้มงวดมายตลอด ตามนโยบายกองทัพสีขาว ตั้งแต่ตนเองรับตำแหน่งแม่ทัพใหม่ๆ แล้ว”
กำลังโหลดความคิดเห็น