ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - แม่ทัพภาค 3 เผยปัญหาไฟป่าหมอกควันในภาคเหนือปีนี้ยังไม่น่าวิตก ชี้ ปริมาณการเผาลด-ผู้คนตระหนักถึงความรุนแรงของปัญหา แต่ยังห่วงการเผาในประเทศเพื่อนบ้าน ระบุ “แม่ฮ่องสอน-พะเยา-เชียงราย” เหตุเมียนมาร์โหมเผาป่าเพิ่มพื้นที่การเกษตร ส่งผลหมอกควันลอยข้ามเข้าฝั่งไทย ยันประสานทางการเมียนมาร์ช่วยดูแลแล้ว
วันนี้ (25 ม.ค.) ที่สนามกีฬากองพันพัฒนาที่ 3 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในการจัดกิจกรรมรณรงค์แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน กองทัพภาคที่ 3 ประจำปี 2555 โดยมีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม
กิจกรรมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการจัดตั้งกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ควบคุมไฟป่าและหมอกควัน กองทัพภาคที่ 3 ซึ่งกองทัพภาคที่ 3 และศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพภาคที่ 3 ได้มอบหมายให้กองทัพน้อยที่ 3 ดำเนินการจัดตั้งขึ้น ณ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 7 ค่ายพระปิ่นเกล้า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ในระหว่างเดือน ธ.ค.2554 ถึงเดือน เม.ย.2555 ภายใต้เป้าหมายเพื่ออำนวยการ ควบคุม กำกับดูแลและเฝ้าระวังการเกิดไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน โดยกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ควบคุมไฟป่าและหมอกควัน กองทัพภาคที่ 3 ได้จัดชุดปฏิบัติการดับไฟป่า เพื่อสนับสนุนจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในกรณีที่เกิดไฟป่าและปัญหาหมอกควัน จำนวน 100 ชุด
ขณะที่การจัดกิจกรรมรณรงค์ในวันนี้เป็นการซักซ้อมการดับไฟป่าร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ ในวันเดียวกันนี้ยังมีการแถลงแผนปฏิบัติการควบคุมไฟป่าและหมอกควัน กองทัพภาคที่ 3 โดย พล.ท.ชาญชัยณรงค์ ธนารุณ แม่ทัพน้อยที่ 3 ในฐานะผู้บัญชาการกองบัญชาการเฉพาะกิจศูนย์ควบคุมไฟป่าและหมอกควัน กองทัพภาคที่ 3 เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้รับทราบถึงแนวทางการปฏิบัติงานของกองทัพภาคที่ 3 เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันอีกด้วย
พล.ท.วรรณทิพย์ ว่องไว แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวถึงการดำเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของกองทัพภาคที่ 3 ว่า เจ้าหน้าที่ทหารได้จัดตั้งกำลังพลเพื่อทำหน้าที่เป็นชุดปฏิบัติการดับไฟป่าตั้งแต่เดือน ธ.ค.โดยหาหมีการร้องขอความช่วยเหลือก็จะออกปฏิบัติการทันที
ทั้งนี้ สถานการณ์ในปีนี้ถือว่ายังไม่รุนแรงมากนัก ซึ่งเป็นผลมาจากการรณรงค์ตลอดหลายปีที่ผ่านมาซึ่งทำให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญและผลกระทบของปัญหาไฟป่าหมอกควันและการเผาในที่โล่ง โดยจากการสำรวจพบว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่พบการเผาที่รุนแรงในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน
แม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวต่อว่า แม้การเผาภายในพื้นที่ภาคเหนือจะไม่ปรากฏว่ารุนแรงจนถุงระดับที่น่าเป็นห่วง แต่ยังมีพื้นที่ที่ยังต้องเฝ้าระวัง 3 จุด คือ จังหวัดแม่ฮ่องสอน พะเยา และเชียงราย ซึ่งมีพื้นที่ติดกับประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากพบว่าในระยะนี้ในประเทศเมียนมาร์ปรากฏว่า มีการพัฒนาพื้นที่เพื่อทำการเกษตรเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก อันเป็นผลมาจากสถานการณ์ภายในประเทศที่เริ่มเข้าสู่ความสงบ ซึ่งกันการแผ้วถางพื้นที่เพื่อทำการเกษตรเหล่านี้ก็ส่งผลให้เกิดการเผาและหมอกควันจำนวนมากที่แพร่กระจายเข้ามาในประเทศไทยด้วย โดยที่ฝ่ายไทยไม่สามารถจะควบคุมเรื่องดังกล่าวได้ อย่างไรก็ตามกรณีดังกล่าวได้มีการหารือกับทางเมียนมาร์ เพื่อขอให้ช่วยควบคุมดูแลการเผา โดยเฉพาะบริเวณชายแดนใกล้กับประเทศไทยแล้ว
