ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - “โฆษก ทภ.2” ยันกองทัพภาค 2 ไม่เคยทอดทิ้ง “2 พลทหาร” ไทย ถูกฝ่ายเขมรจับตัวไปนานร่วมปี พยายามหาแนวทางช่วยเหลือทุกทาง ชี้ ไม่ได้จับตัวไปช่วงปะทะ แต่ถูกจับตัวขณะเข้าไปเที่ยวตลาดชายแดน “ช่องสะงำ” ศรีสะเกษ ข้อหามียาเสพติด ศาลเขมรตัดสินจำคุก 2 ปี ล่าสุด เตรียมยื่นขออภัยโทษ
วันนี้ (25 ม.ค.) เมื่อเวลา 14.30 น.ที่กองกิจการพลเรือน ภายในค่ายสุรนารี กองทัพภาคที่ 2 อ.เมือง จ.นครราชสีมา พ.อ.ประวิทย์ หูแก้ว รองเสนาธิการกองทัพภาคที่ 2 ในฐานะโฆษกกองทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีพลทหารในสังกัด กรมทหารราบที่ 8 (ร.8) จ.ขอนแก่น กองทัพภาคที่ 2 ถูกฝ่ายกัมพูชาจับตัวไปนานกว่า 1 ปี โดยล่าสุด ภรรยาและลูกเดินทางไปร้องขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ว่า เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 ม.ค.2554 ก่อนมีการปะทะกันระหว่างทหารไทยกับกัมพูชา ซึ่งทหารฝ่ายเราถูกจับไป 2 คน คือ พลทหาร เถลิงศักดิ์ แคนตะ กับ พลทหาร พินิจ บุญมี สังกัด ร.8 จ.ขอนแก่น ปฏิบัติหน้าที่กองกำลังสุรนารี จ.สุรินทร์
ช่วงที่ถูกฝ่ายกัมพูชาจับกุมตัว นั้นเป็นช่วงที่หน่วยสังกัด ให้พลทหารทั้ง 2 คน กลับไปพักตามวงรอบของการปฏิบัติหน้าที่ แต่ระหว่างการพักพลทหารทั้ง 2 คน ได้ข้ามไปเที่ยวตลาดค้าขายระหว่างไทยกับกัมพูชา บริเวณด่านผ่านแดนถาวรไทย-กัมพูชา ช่องสะงำ และได้เดินทางข้ามไปฝั่งกัมพูชาโดยขาเข้าไม่มีปัญหา แต่ขากลับทางตรวจคนเข้าเมืองของกัมพูชาได้ตรวจค้นตัวพลทหารและตั้งข้อกล่าวหาว่ามียาเสพติด (ยาบ้า) อยู่ในตัวทหารทั้ง 2 คน ก่อนถูกนำตัวไปดำเนินคดีในพื้นที่ของกัมพูชาที่ จ.เสียมราฐ ประเทศกัมพูชา
หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ฝ่ายไทยเราโดยผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 8 ได้ติดต่อหน่วยประสานงานในพื้นที่เพื่อเข้าไปช่วยเหลือในการดำเนินคดี โดยได้นำญาติพี่น้อง บิดา มารดา ของทหารทั้ง 2 นายไปดูแลพลทหารที่ถูกควบคุมตัวอยู่ ต่อมาศาลกัมพูชาตัดสินจำคุกพลทหารทั้ง 2 นายรวม 2 ปี ขณะนี้ถูกควบคุมตัวหรือถูกจำคุกอยู่ที่ จ.เสียมราฐ
จากนั้นเราได้ติดต่อแจ้งให้ญาติทราบ ทางญาติขอร้องให้เราช่วยเหลือประสานงานให้ ซึ่งกองทัพภาคที่ 2 ได้ให้การช่วยเหลือมาเป็นลำดับอยู่แล้ว ทั้งการจัดหาทนายความให้ แต่ญาติขอรับการสนับสนุนเป็นเงินโดยขอจ้างทนายความเอง และขอให้ทางกองทัพภาคที่ 2 สนับสนุนในการติดต่อประสานงานให้ สุดท้ายทนายความแจ้งว่า ไม่สามารถช่วยได้ เนื่องจากหลักฐานชัดเจน เราจึงประสานไปทางผู้ช่วยทูตทหารที่กรุงพนมเปญ ให้ติดตามข่าวสารและดูแลความเป็นอยู่ พร้อมหาแนวทางในการช่วยเหลือ
ต่อมาเราได้รับแจ้งจากทนายความและผู้ช่วยทูตทหาร ว่า ทางที่ดีที่สุด คือ ให้ขออภัยโทษ และปัจจุบันเราก็ติดต่อไปทางกงสุลไทย ที่พนมเปญ เพื่อขอคำตัดสินที่เป็นลายลักษณ์อักษรจากกงสุลที่ตัดสินให้จำคุก เพื่อที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ขณะนี้ทำเรื่องไปแล้ว 2 ครั้ง อยู่ระหว่างการรอเอกสารหลักฐาน สำหรับพลทหารทั้ง 2 นายยังคงเป็นทหารในสังกัดกรมทหารราบที่ 8 กองทัพภาคที่ 2 เนื่องจากเราไม่ได้ปลดออก โดยพลทหารพินิจ เป็นทหารพลัด 1/2552 ส่วนพลเถลิงศักดิ์ เป็นทหารพลัด 1/2553 กองทัพภาคที่ 2 ยังดูแลอยู่
พ.อ.ประวิทย์ กล่าวอีกว่า เรื่องดังกล่าว พล.ท.ธวัชชัย สมุทรสาคร แม่ทัพภาคที่ 2 มีความห่วงใยและให้ติดตามข่าวสารความเคลื่อนไหวพร้อมหาทางช่วยเหลือโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม ขั้นต่อไปเราคงติดต่อประสานงานกับทางญาติในเรื่องการขออภัยโทษตามคำแนะนำของผู้ช่วยทูตและทนายด้านฝั่งกัมพูชา
“ขอยืนยันว่า กองทัพภาคที่ 2 ไม่ได้ทอดทิ้งกำลังพล แม่ทัพภาคที่ 2 มีความห่วงใยกำลังพลทุกคน ไม่เฉพาะพลทหารทั้ง 2 คนนี้เท่านั้น แต่ 2 นายนี้เป็นกรณีพิเศษ เพราะเป็นเรื่องที่เราต้องคอยช่วยเหลือดูแลถึงแม้ว่า จะไปกระทำความผิดเราก็ยังถือว่าเป็นกำลังพลของเรา” พ.อ.ประวิทย์ กล่าว