“ปรเมศวร์” หนุนร่าง พ.ร.บ.จดหมายเหตุแห่งชาติ

ศูนย์ข่าวศรีราชา - ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ ส.ส.พลังชล สานแนวคิดคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม หนุนให้มีการจัดทำร่าง พ.ร.บ.จดหมายเหตุแห่งชาติ พร้อมสนับสนุนการจัดสร้างหอเอกสารจดหมายเหตุประจำท้องถิ่น เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลประวัติศาสตร์สำคัญของท้องถิ่นให้เป็นสมบัติชาติที่มีการจัดเก็บอย่างเป็นระบบ เพื่อประโยชน์ต่อไปให้รุ่นลูกหลานได้สืบค้นข้อมูล

นายปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชลบุรี พรรคพลังชล เผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา ได้อภิปรายสนับสนุนร่าง พ.ร.บ.จดหมายเหตุแห่งชาติ ที่เสนอโดยคณะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เพราะเอกสารจดหมายเหตุถือได้ว่าเป็นคุณค่าทางประวัติศาสตร์ เป็นมรดกทางวัฒนธรรม รวมทั้งเป็นความทรงจำของชนชาติและเป็นคลังปัญหาให้เยาวชนคนรุ่นหลัง รวมถึงประชาชนผู้ที่สนใจสามารถค้นคว้าวิจัยต่อไปได้

ทั้งนี้ เมื่อมีการออกกฎหมายเพื่อรองรับให้สำนักจดหมายเหตุแห่งชาติมีอำนาจหน้าที่โดยตรงในการพิทักษ์ คุ้มครองเอกสารจดหมายเหตุของชาติ และประเมินคุณค่าของเอกสารในหน่วยงานต่างๆ ของรัฐ และให้มีการจัดรวมรวบเพื่อให้มีมาตรฐานและประสิทธิภาพสูงสุดอย่างสากลเหมือนกับประเทศอื่นๆ และสิ่งที่น่าให้ความสนใจคือการกำหนดให้มีหอจดหมายเหตุท้องถิ่น โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของรัฐที่มีความพร้อม

นอกจากกรุงเทพมหานครฯแล้ว ในปัจจุบันหอจดหมายเหตุในภูมิภาคมีอยู่ทั้งสิ้นรวม 8 แห่ง ทำให้คนในพื้นที่จังหวัดที่ไม่มีหอจดหมายเหตุภูมิภาคในจังหวัดของตนเองมีความยากลำบากในการเดินทางมาสืบค้นหรือติดตามข้อมูลของท้องถิ่นของตนเอง ทั้งนี้ หากให้มีการจัดสร้างหอจดหมายเหตุแห่งชาติในองค์กรส่วนท้องถิ่นที่มีความพร้อมจะทำให้กระแสความสนใจในวัฒนธรรมของประชาชนมีความตื่นตัวขึ้น จนนำมาสู่การเสนอผลงานภูมิปัญญาชาวบ้านเข้าเป็นมรดกของท้องถิ่นต่อไป

นายปรเมศวร์ ยังได้ยกตัวอย่างเมืองพัทยา ซึ่งเป็นชื่อที่เพี้ยนมาจากคำว่า “ทัพพระยา” สมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินยกทัพมาก่อนเข้าตีเมืองจันทบุรีตั้งแต่โบราณกาล ซึ่งคนส่วนใหญ่ยังไม่รู้ว่าเมืองพัทยามีที่มาจากคำว่าอะไร ตรงจุดนี้ก็เป็นตัวอย่างให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าใจถึงความเป็นมาเป็นไปของสถานที่นั้นๆ อันจะเป็นการสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติอย่างยั่งยืน

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ในส่วนของระบบการดูแลรักษานั้นอาจจะมีบุคลากรในด้านดังกล่าวไม่เพียงพอ หรืออาจจะมีแต่ไม่มีความรู้ความเข้าใจในการจัดระบบระเบียบของเอกสารหอสมุดท้องถิ่น ดังนั้นการออกกฎหมายมารองรับเรื่องการดูแลเอกสารของชาติจะทำให้เรื่องการดูแลและการจัดเก็บเอกสารของชาติมีความสมบูรณ์เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่หวังดีใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายนำเอกสารของชาติไปใช้เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัว ซึ่งตรงนี้ก็จะมีการออกบทลงโทษที่จัดเจนต่อไปด้วย

อย่างไรก็ตาม ยังมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอีกหลายคนที่มีความห่วงใยในเรื่องของเอกสารสิทธิทางปัญญาส่วนบุคคล ตัวอย่างเช่น ทางกรมศิลปากรมีความสนใจและประเมินเอกสารเหล่านั้นเพื่อจะสงวนไว้เป็นสมบัติของชาติ อาจจะต้องมีการซื้อต่อจากบุคคลผู้มีกรรมสิทธิ์ ซึ่งต้องมีราคาซื้อขายที่เป็นมาตรฐาน ไม่มีช่องว่างให้เกิดการทุจริต และในทางกลับกันหากเจ้าของผู้เป็นกรรมสิทธิ์ไม่ยินยอมจะให้เป็นสมบัติของชาติเพราะอยากให้เป็นสมบัติของตระกูลเพื่อความภูมิใจไปยังลูกหลานนั้น จะมีการพิจารณาแนวทางออกเป็นอย่างไร ซึ่งก็ได้ฝากเรื่องทั้งหมดให้ประธานสภาฯ คณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการร่าง พ.ร.บ.จดหมายเหตุแห่งชาติรับไว้พิจารณาให้ครอบคลุมทุกมิติแล้วด้วยเช่นกัน