ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - ผบช.ภ.5 แจงตำรวจพลาดคดีโดนแก๊งค้ายายิงถล่มที่เชียงราย เผยเจ้าหน้าที่ไปดูสถานที่ก่อนรอง ผบช.ภ.5 ลงพื้นที่ ส่วนเหตุโดนยิงถล่มคาดกองกำลังติดอาวุธปฏิบัติการในพื้นที่อยู่ พอรู้ตำรวจมาหวั่นโดนจับเลยชิงลงมือก่อน ย้ำต่อไปเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ชายแดนต้องเตรียมพร้อมเต็มที่รับเหตุไม่คาดฝัน เตรียมหารือฝั่งเมียนมาร์ตามล่าตัวผู้ต้องหา
พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยถึงกรณีที่กองกำลังติดอาวุธซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่บ้านจะลอ หมู่ 10 ตำบลแม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เป็นเหตุให้ ร.ต.อ.ศิริวัฒน์ ปริญญา รอง สวป.สภ.แม่ฟ้าหลวง ถูกยิงเสียชีวิต และด.ต.โยธิน แก้วคำอ้าย ลูกชุดและพลขับถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวได้รับมอบหมายให้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่บ้านจะลอ เพื่อสำรวจสถานที่และรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับหมู่บ้าน ก่อนที่ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว พร้อมคณะจะลงพื้นที่ ณ จุดดังกล่าวในวันต่อมา (23 ม.ค.)
ส่วนสาเหตุของการโจมตีที่มีการระบุว่า เกิดจากความไม่พอใจของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด เนื่องจากเตจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวทำการควบคุมตัวเด็กวัยรุ่น 2 รายเพื่อทำการตรวจปัสสาวะ เนื่องจรากมีท่าทางต้องสงสัย และต่อมาเด็กวัยรุ่นทั้งสองได้โทรศัพท์ติดต่อกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดให้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่การเจรจาไม่เป็นผล ทำให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดนำกำลังมาโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น พล.ต.ท.สุเทพระบุว่ายังไม่ปักใจเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นสาเหตุของการโจมตี เพราะการระดมกำลังพร้อมอาวุธครบมือจำนวนมากในเวลาเพียง 20 นาทีนั้นไม่น่าจะทำได้อย่างรวดเร็วนัก จึงมีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มกองกำลังติดอาวุธเหล่านี้อาจกำลังปฏิบัติการอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เมื่อทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในพื้นที่จึงเกิดความหวาดกลัง เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่จะทำการจับกุม เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่มีกำลังน้อยกว่าจึงเปิดฉากโจมตีเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุเทพ ยังระบุด้วยว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่ากองกำลังติดอาวุธดังกล่าวมาจากพื้นที่บ้านผาขาวในฝั่งประเทศเมียนมาร์ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่บ้านจะลอ โดยพื้ยที่ดังกล่าวเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มลาหู่ ส่วนรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและถูกจอดทิ้งไว้นั้นเดิมเป็นรถทะเบียนกาญจนบุรี แต่ในวันเกิดเหตุกลับติดป้ายทะเบียนฝั่งเมียนมาร์ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ โดยต่อไปหากมีการลงพื้นที่ในบริเวณชายแดนอีกจะต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
ด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงราย เปิดเผยว่า เตรียมที่จะเดินทางเข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ของประเทศเมียนมาร์ในวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) เพื่อติดตามความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว รวมทั้งขอความร่วมมือในการติดตามหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยถึงกรณีที่กองกำลังติดอาวุธซึ่งคาดว่าเป็นกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ในพื้นที่หมู่บ้านจะลอ หมู่ 10 ตำบลแม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง จังหวัดเชียงราย เป็นเหตุให้ ร.ต.อ.ศิริวัฒน์ ปริญญา รอง สวป.สภ.แม่ฟ้าหลวง ถูกยิงเสียชีวิต และด.ต.โยธิน แก้วคำอ้าย ลูกชุดและพลขับถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวได้รับมอบหมายให้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่บ้านจะลอ เพื่อสำรวจสถานที่และรวบรวมข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับหมู่บ้าน ก่อนที่ พล.ต.ต.ชำนาญ รวดเร็ว พร้อมคณะจะลงพื้นที่ ณ จุดดังกล่าวในวันต่อมา (23 ม.ค.)
ส่วนสาเหตุของการโจมตีที่มีการระบุว่า เกิดจากความไม่พอใจของกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด เนื่องจากเตจ้าหน้าที่ตำรวจชุดดังกล่าวทำการควบคุมตัวเด็กวัยรุ่น 2 รายเพื่อทำการตรวจปัสสาวะ เนื่องจรากมีท่าทางต้องสงสัย และต่อมาเด็กวัยรุ่นทั้งสองได้โทรศัพท์ติดต่อกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดให้เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่การเจรจาไม่เป็นผล ทำให้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติดนำกำลังมาโจมตีเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น พล.ต.ท.สุเทพระบุว่ายังไม่ปักใจเชื่อว่าเรื่องดังกล่าวเป็นสาเหตุของการโจมตี เพราะการระดมกำลังพร้อมอาวุธครบมือจำนวนมากในเวลาเพียง 20 นาทีนั้นไม่น่าจะทำได้อย่างรวดเร็วนัก จึงมีความเป็นไปได้ว่ากลุ่มกองกำลังติดอาวุธเหล่านี้อาจกำลังปฏิบัติการอยู่ในบริเวณใกล้เคียง เมื่อทราบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาในพื้นที่จึงเกิดความหวาดกลัง เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่จะทำการจับกุม เมื่อเห็นว่าเจ้าหน้าที่มีกำลังน้อยกว่าจึงเปิดฉากโจมตีเจ้าหน้าที่ดังกล่าว
นอกจากนี้ พล.ต.ท.สุเทพ ยังระบุด้วยว่า จากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่ากองกำลังติดอาวุธดังกล่าวมาจากพื้นที่บ้านผาขาวในฝั่งประเทศเมียนมาร์ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่บ้านจะลอ โดยพื้ยที่ดังกล่าวเป็นเขตอิทธิพลของกลุ่มลาหู่ ส่วนรถที่คนร้ายใช้ก่อเหตุและถูกจอดทิ้งไว้นั้นเดิมเป็นรถทะเบียนกาญจนบุรี แต่ในวันเกิดเหตุกลับติดป้ายทะเบียนฝั่งเมียนมาร์ ทั้งนี้กรณีดังกล่าวถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับเจ้าหน้าที่ โดยต่อไปหากมีการลงพื้นที่ในบริเวณชายแดนอีกจะต้องมีการเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรองรับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด
ด้าน พ.ต.อ.สุรเชษฐ์ โทปุญญานนท์ รรท.ผบก.ภ.จว.เชียงราย เปิดเผยว่า เตรียมที่จะเดินทางเข้าร่วมประชุมกับเจ้าหน้าที่ของประเทศเมียนมาร์ในวันพรุ่งนี้ (25 ม.ค.) เพื่อติดตามความคืบหน้าของกรณีดังกล่าว รวมทั้งขอความร่วมมือในการติดตามหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป