ผู้ว่าฯชี้แผนแก้แล้งเมืองแพร่มีแต่ละลายงบ แนะทำฝายถาวร-สร้างสำนึกชุมชนแทน

แพร่ - พบชาวแพร่ใช้งบมหาศาลกับโครงการชั่วคราวแก้ปัญหาภัยแล้ง แนะประเมินใหม่ หาช่องทางทำโครงการกั้นฝายถาวรชะลอน้ำ สร้างจิตสำนึกชุมชน

วันนี้ (24 ม.ค.) นายเกษม วัฒนธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เข้าดูการแก้ปัญหาภัยแล้งของประชาชน ที่บริเวณจุดตัดคลองชลประทานโครงการส่งน้ำฝั่งตะวันออกแม่น้ำยม และลำห้วยแม่หล่าย ที่ ต.แม่หล่าย อ.เมืองแพร่ หรือ “ไซฟ่อนแม่หล่าย” พบว่า มีชาวบ้าน รวมทั้ง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ใน อ.เมือง อ.สูงเม่น กว่า 300 คน ช่วยกันนำกระสอบทรายเข้ากั้นลำห้วยแม่หล่าย เพื่อยกระดับน้ำทำการสูบน้ำเข้าระบบชลประทาน ส่งน้ำให้กับพื้นที่ชลประทานใน อ.เมือง อ.สูงเม่น และ อ.เด่นชัย

ในปีนี้เกษตรกรหันไปปลูกข้าว มากกว่าการปลูกถั่วเหลือง โดยมีพื้นที่เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 70 จากพื้นที่ปลูกข้าวเดิม ขณะที่สถานการณ์การใช้น้ำจะเข้าสู่สภาวะวิกฤตในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 55 เป็นต้นไป จนต้องเตรียมการเพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ให้เพียงพอ

หลังจาก นายเกษม วัฒนธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ ได้เข้ามาดูการสร้างฝายยกระดับน้ำดังกล่าว พบว่า ต้องเสียงบประมาณจำนวนมากทุกปี หลังน้ำหลากฝายชั่วคราวก็พังเสียหายไป จึงต้องการให้มีการประเมินค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำฝายชั่วคราว และถ้าทำฝายถาวรจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่และจะคุ้มทุนหรือไม่ที่จะสร้างฝายถาวร

ทางชลประทานได้ให้ข้อมูลว่า การสร้างฝายที่ไซฟ่อนแม่หล่าย ต้องใช้งบประมาณจำนวน 20 ล้านบาท ถ้าจะทำก็ต้องใช้งบประมาณปี 2556

นายเกษม กล่าวว่า การแก้ปัญหาภัยแล้งในจังหวัดแพร่ ที่ไม่สามารถดำเนินการได้สำเร็จเป็นรูปธรรม เนื่องจากยุทธศาสตร์ของจังหวัดไม่สอดคล้องกับการแก้ปัญหา จากนี้ไปคงจะต้องมีการแก้ไขโดยเร่งด่วน เพราะไม่เพียงปัญหาขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตรเท่านั้น แต่ภัยแล้งยังทำให้เกิดปัญหาอื่นๆ ตามมา โดยเฉพาะเรื่องของหมอกควัน ไฟป่าที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงทุกปี

ปัญหาแรกที่พบ คือ การใช้งบประมาณที่ไม่สอดคล้องกับการทำงานจริง ประการต่อมาจิตสำนึกพลเมืองยังไม่เกิดขึ้นในกลุ่มประชาชนส่วนใหญ่ แม้ว่ามีประชาชนจำนวนมากเริ่มให้ความสำคัญ ทางออกคือ การเร่งสร้างจิตสำนึกในการรักษาป่าไม้ และการจัดระบบการเกษตรใหม่