ศูนย์ข่าวขอนแก่น- ศาลจังหวัดขอนแก่น เลื่อนนัดพร้อมพิจารณาคดี 4 ผู้ต้องหาคนเสื้อแดง บุกเผาศาลากลางจังหวัดและสถานีโทรทัศน์ NBT ขอนแก่น ไปเป็น 2 ก.ค.55 เหตุอธิบดี DSI มีความเห็นแย้งอัยการจังหวัดที่สั่งไม่ฟ้องในฐานก่อการร้าย ผู้ต้องหาไพร่แดงครวญ หลังได้ประกันตัวออกจากคุก แต่ชีวิตยังคงลำบาก ไม่มีใครรับทำงาน ซ้ำถูกลอยแพจาก ส.ส.เพื่อไทย และแกนนำคนเสื้อแดง
วันนี้ (23 ม.ค.) ที่ศาลจังหวัดขอนแก่น พนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นได้นัด พร้อมเพื่อไต่สวนในคดี 4 ผู้ต้องหาคนเสื้อแดงเผาศาลากลางและเผาสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT ขอนแก่น เมื่อวันที่ 19 พ.ค.53 แต่เนื่องจากมีความเห็นแย้งจากพนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศาลจังหวัดขอนแก่นจึงได้เลื่อนนัดพร้อมไปเป็นวันที่ 2 ก.ค.55 แทน
นายบุญยงค์ แก้วฝ่ายนอก ทนายความกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ภาคอีสาน เปิดเผยถึงการเลื่อนนัดพร้อมครั้งนี้ สืบเนื่องจากพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่นได้มีคำสั่งไม่ฟ้องผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ในความผิดฐานก่อการร้ายบุกรุกศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธและร่วมกระทำตั้งแต่สองคนขึ้นไป ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 135/1, 135/2, 364, 365 แย้งความเห็นของพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
ขณะนี้ได้รับแจ้งจาก นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่า ได้แย้งคำสั่งไม่ฟ้องของพนักงานอัยการจังหวัดขอนแก่น โดยได้ส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดชี้ขาดตามกฎหมายแล้ว ดังนั้น คดีดังกล่าวจึงถือว่าเป็นคดีคงค้างในศาล และศาลได้เลื่อนนัดพร้อมไปเป็นวันที่ 2 ก.ค.ที่จะถึงนี้แทน โดยวันนัดพร้อมนั้น จะมีทั้งฝ่ายจำเลย โจทก์มารายงานตัวพร้อมกันเพื่อเริ่มนัดสืบพยาน
สำหรับผู้ต้องหากลุ่มคนเสื้อแดง 4 คน ที่ต้องมารายงานตัวในวันที่ 2 ก.ค.ประกอบไปด้วย นายอดิสัย วิบูลย์เสข, นายจิรัฐตระกูล สุมะหา, นายสุทัศน์ สิงห์บัวขาว มีความผิดฐานก่อการร้ายบุกรุกศาลากลางจังหวัดขอนแก่น โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยมีอาวุธ และร่วมกระทำตั้งแต่สองคนขึ้นไป ขณะที่ผู้ต้องหาอีกคน คือ นายอุดม คำมูล มีความผิดฐานก่อการร้ายบุกรุกสถานีโทรทัศน์ NBT
ทั้งนี้ ผู้ต้องหากลุ่มคนเสื้อแดงทั้ง 4 ราย ศาลจังหวัดขอนแก่นได้ให้ประกันตัวออกไปต่อสู้คดีเมื่อเดือนส.ค. 2554 ที่ผ่านมา หลังจากที่ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย 6 คน ได้ใช้ตำแหน่งประกันตัว และหลักทรัพย์ เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันในการยื่นขอประกันตัว โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกันเป็นโฉนดที่ดินมีมูลค่า 5 แสนบาท และเงินสดอีก 5 แสนบาท รวมเป็น 1 ล้านบาท/คน
อย่างไรก็ตาม ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ได้เปิดเผยว่า ขณะนี้พวกตนตกอยู่ในภาวะลำบากมาก ไม่มีรายได้ ไม่มีงานทำ บริษัทห้างร้านที่ไหนก็ไม่รับเข้าทำงาน เพราะอ้างว่ามีคดีติดตัว ที่สำคัญไม่ได้รับการช่วยเหลือจาก ส.ส.เพื่อไทยในจังหวัดขอนแก่น และแกนนำคนเสื้อแดงแม้แต่คนเดียว
