ตราด - เทศกาลตรุษจีน พ่อค้าแม้ค้าเผยราคาสินค้าขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย และคาดว่า ปีนี้จะมีชาวไทยเชื้อสายจีนจับจ่ายซื้อของมากกว่าปีที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน บรรดา ชาวไทยเชื้อสายจีนเริ่มทยอยเดินทางจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะการซื้อผลไม้และผัก เพื่อไว้ใช้เซ่นไหว้ในวันตรุษจีน โดยพบว่าของที่ใช้ในการไหว้มีการขยับราคาเพิ่มขึ้นเป็นบางชนิด
นางธีระ ถนอมวงศ์ แม่ค้าจำหน่ายไก่สดในตลาด กล่าวว่า ช่วงนี้ราคาเนื้อไก่สดเริ่มการขยับราคาสูงขึ้นจากเดิมกิโลกรัมละ 2-3 บาท ซึ่งเมื่อที่ผ่านเนื้อไก่สดมีราคากิโลกรัมละ 60 บาท แต่วันนี้ไกราคากิโลกรัมละ 62-65 บาท ส่วนน่องและสะโพก กิโลกรัมละ 90 บาท ปรับขึ้นจากเดิมที่เคยจำหน่ายกิโลกรัมละ 85 บาท ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมาปีนี้ราคาไก่มีการปรับขึ้นไม่สูงมากนัก
ด้าน นายขัง ประกอบความดี พ่อค้าจำหน่ายหมู เล่าว่า ช่วง 2-3 วันนี้ ราคาหมูสามชั้นกิโลกรัมละ 130 บาท หมูเนื้อแดง 140 บาท ขาหมูราคากิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งยังเป็นราคาที่ทรงตัวอยู่ คาดว่าจนถึงวันตรุษจีน ราคาหมูก็จะไม่ขึ้นราคา แต่อาจมีการปรับราคาลง เนื่องจากหมูตัวมีการเข้ามาในพื้นที่มากจนทำให้เนื้อหมูล้นตลาด ตรุษจีนปีนี้ตามเขียงหมูจึงไม่มีการปรับขึ้นราคา
ส่วนของหัวหมู เป็ดต้ม และไก่ต้ม ก็มีการปรับราคาขึ้นจากเดิมประมาณกิโลกรัมละ 30-50 บาท เพราะเนื่องจากราคาไก่ตัวปรับขึ้นราคาและต้องผ่านกรรมวิธีเสร็จแล้ว จึงต้องปรบราคาขึ้นตามราคาส่ง
นายพงศ์พันธุ์ ขอวิจิตรไพศาล พ่อค้าจำหน่ายหัวหมูและไก่ เล่าว่า วันปกติจะจำหน่ายหัวหมู หัวละ 300 บาทแต่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนจำหน่ายในราคาหัวละ 350 บาท เนื่องจากค่าขนส่งและค่าแรงการทำเพิ่มตามช่วงเทศกาล ส่วนราคาไก่ต้มตัวละ 180 บาทพร้อมเครื่องใน ซึ่งจากเดิมขายตัวละ 160 บาท คาดว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนราคาจะไม่เพิ่มจากเดิม
สำหรับขนมที่ต้องใช้ไหว้ ตามร้านค้าได้เตรียมสั่งเพิ่มเพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่จะต้องซื้อของไปเซ่นไหว้ ซึ่งราคาของขนมนั้นยังคงมีราคาที่ปกติ เช่น ขนมชั้น ถาดละ 20 บาท ทองหยิบทองหยอด ถาดละ 20 บาท และนอกจากนี้สิ่งที่ต้องใช้ในการเซ่นไหว้ คือ ผลไม้มงคล หลากหลายชนิด
นางขวัญใจ ฉาบกังวาน แม่ค้าจำหน่ายผลไม้ในตลาดสด เล่าว่า ราคาผลไม้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีการปรับราคาสูงขึ้นเป็นบางชนิด ซึ่งส่วนมากจะเป็นผลไม้มงคลที่ชาวไทยเชื้อสายจีน เช่น แอปเปิลฟูจิ ที่จากเดิมขายในราคาลูกละ 25 บาท ปรับขึ้นเป็นราคาลูกละ 30 บาท ส้มสายน้ำผึ้งจากเดิมราคากิโลกรัมละ 55 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 60 บาท องุ่นแดงนอกจากเดิมราคา 200 บาท ปรับขึ้นเป็นราคากิโลกรัมละ 220 บาท กล้วยหอมเขียว จากเดิมหวีละ 50-60 บาท ขึ้นราคาเป็นหวีละ 80-100 บาท
สำหรับผักที่นิยมนำมาประกอบอาหาร ก็มีการปรับราคาขึ้นแต่ไม่สูงเท่ากับปีที่ผ่านมา นาย สมาน นามศิริ พ่อค้าผักในตลาดสด เล่าว่า ผักก็มีการขยับราคาแต่เพียงเล็กน้อยและบางชนิด เช่น ดอกหอม ที่ขณะนี้จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 40 บาท กวางตุ้ง กิโลกรัมละ 40 บาท มะระกิโลกรัมละ 35 บาท ต้นกุ้ยช่าย ราคากิโลกรัมละ 70 บาทซึ่งแต่ละชนิดนี้มีการปรับราคาขึ้นชนิดละ 2- 5 บาท
ในปีนี้บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ได้แสดงความคิดเห็นที่ตรงกันว่า ตรุษจีนปีนี้จะมีประชาชนเข้ามาซื้อของเซ่นไหว้มากกว่าที่ผ่านมา เพราะในปีนี้ราคาของสินค้าแต่ละประเภทมีการปรับขึ้นราคาที่ไม่สูงมากและในปีนี้เป็นปีมงคล ประชาชนจึงมีการเซ่นไหว้มากกว่าปีที่ผ่านมา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเทศกาลตรุษจีน บรรดา ชาวไทยเชื้อสายจีนเริ่มทยอยเดินทางจับจ่ายใช้สอย โดยเฉพาะการซื้อผลไม้และผัก เพื่อไว้ใช้เซ่นไหว้ในวันตรุษจีน โดยพบว่าของที่ใช้ในการไหว้มีการขยับราคาเพิ่มขึ้นเป็นบางชนิด
นางธีระ ถนอมวงศ์ แม่ค้าจำหน่ายไก่สดในตลาด กล่าวว่า ช่วงนี้ราคาเนื้อไก่สดเริ่มการขยับราคาสูงขึ้นจากเดิมกิโลกรัมละ 2-3 บาท ซึ่งเมื่อที่ผ่านเนื้อไก่สดมีราคากิโลกรัมละ 60 บาท แต่วันนี้ไกราคากิโลกรัมละ 62-65 บาท ส่วนน่องและสะโพก กิโลกรัมละ 90 บาท ปรับขึ้นจากเดิมที่เคยจำหน่ายกิโลกรัมละ 85 บาท ซึ่งหากเปรียบเทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมาปีนี้ราคาไก่มีการปรับขึ้นไม่สูงมากนัก
ด้าน นายขัง ประกอบความดี พ่อค้าจำหน่ายหมู เล่าว่า ช่วง 2-3 วันนี้ ราคาหมูสามชั้นกิโลกรัมละ 130 บาท หมูเนื้อแดง 140 บาท ขาหมูราคากิโลกรัมละ 80 บาท ซึ่งยังเป็นราคาที่ทรงตัวอยู่ คาดว่าจนถึงวันตรุษจีน ราคาหมูก็จะไม่ขึ้นราคา แต่อาจมีการปรับราคาลง เนื่องจากหมูตัวมีการเข้ามาในพื้นที่มากจนทำให้เนื้อหมูล้นตลาด ตรุษจีนปีนี้ตามเขียงหมูจึงไม่มีการปรับขึ้นราคา
ส่วนของหัวหมู เป็ดต้ม และไก่ต้ม ก็มีการปรับราคาขึ้นจากเดิมประมาณกิโลกรัมละ 30-50 บาท เพราะเนื่องจากราคาไก่ตัวปรับขึ้นราคาและต้องผ่านกรรมวิธีเสร็จแล้ว จึงต้องปรบราคาขึ้นตามราคาส่ง
นายพงศ์พันธุ์ ขอวิจิตรไพศาล พ่อค้าจำหน่ายหัวหมูและไก่ เล่าว่า วันปกติจะจำหน่ายหัวหมู หัวละ 300 บาทแต่ในช่วงเทศกาลตรุษจีนจำหน่ายในราคาหัวละ 350 บาท เนื่องจากค่าขนส่งและค่าแรงการทำเพิ่มตามช่วงเทศกาล ส่วนราคาไก่ต้มตัวละ 180 บาทพร้อมเครื่องใน ซึ่งจากเดิมขายตัวละ 160 บาท คาดว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนราคาจะไม่เพิ่มจากเดิม
สำหรับขนมที่ต้องใช้ไหว้ ตามร้านค้าได้เตรียมสั่งเพิ่มเพื่อรองรับความต้องการของผู้ที่จะต้องซื้อของไปเซ่นไหว้ ซึ่งราคาของขนมนั้นยังคงมีราคาที่ปกติ เช่น ขนมชั้น ถาดละ 20 บาท ทองหยิบทองหยอด ถาดละ 20 บาท และนอกจากนี้สิ่งที่ต้องใช้ในการเซ่นไหว้ คือ ผลไม้มงคล หลากหลายชนิด
นางขวัญใจ ฉาบกังวาน แม่ค้าจำหน่ายผลไม้ในตลาดสด เล่าว่า ราคาผลไม้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนมีการปรับราคาสูงขึ้นเป็นบางชนิด ซึ่งส่วนมากจะเป็นผลไม้มงคลที่ชาวไทยเชื้อสายจีน เช่น แอปเปิลฟูจิ ที่จากเดิมขายในราคาลูกละ 25 บาท ปรับขึ้นเป็นราคาลูกละ 30 บาท ส้มสายน้ำผึ้งจากเดิมราคากิโลกรัมละ 55 บาท ปรับขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 60 บาท องุ่นแดงนอกจากเดิมราคา 200 บาท ปรับขึ้นเป็นราคากิโลกรัมละ 220 บาท กล้วยหอมเขียว จากเดิมหวีละ 50-60 บาท ขึ้นราคาเป็นหวีละ 80-100 บาท
สำหรับผักที่นิยมนำมาประกอบอาหาร ก็มีการปรับราคาขึ้นแต่ไม่สูงเท่ากับปีที่ผ่านมา นาย สมาน นามศิริ พ่อค้าผักในตลาดสด เล่าว่า ผักก็มีการขยับราคาแต่เพียงเล็กน้อยและบางชนิด เช่น ดอกหอม ที่ขณะนี้จำหน่ายราคากิโลกรัมละ 40 บาท กวางตุ้ง กิโลกรัมละ 40 บาท มะระกิโลกรัมละ 35 บาท ต้นกุ้ยช่าย ราคากิโลกรัมละ 70 บาทซึ่งแต่ละชนิดนี้มีการปรับราคาขึ้นชนิดละ 2- 5 บาท
ในปีนี้บรรดาพ่อค้าแม่ค้า ได้แสดงความคิดเห็นที่ตรงกันว่า ตรุษจีนปีนี้จะมีประชาชนเข้ามาซื้อของเซ่นไหว้มากกว่าที่ผ่านมา เพราะในปีนี้ราคาของสินค้าแต่ละประเภทมีการปรับขึ้นราคาที่ไม่สูงมากและในปีนี้เป็นปีมงคล ประชาชนจึงมีการเซ่นไหว้มากกว่าปีที่ผ่านมา